กลุ่ม We Fair ชงฝ่ายค้าน ใช้ กมธ.งบฯจัดลำดับความสำคัญใหม่ “พิธา” เอาแน่หั่นงบซื้ออาวุธทหารมาดูแลกลุ่มเปราะบาง ประเทศไทยต้องฟื้นฟูใหม่ ถก กมธ.งบฯนัดแรกเกลี่ยเก้าอี้ลงตัว มีงัดข้อเล็กๆตำแหน่งรอง ปธ.คนที่ 2 “ป้อม” ทำนิ่งดูด “เรืองไกร” สวิงขั้ว “ศรัณย์วุฒิ” ลั่นยืนข้าง ปชต.ไม่ฝักใฝ่เผด็จการ “วิรัช” บอกเฉยๆทำใจได้ถูกชี้ทุจริตสนามฟุตซอล “ศรีฯ” เอาอีกยื่นสอบ “ตู่-ป๊อก” ถ่วงฉีดวัคซีน แอมเนสตี้ไทยฯบี้ ยธ.เร่งคลี่ปมอุ้ม “ตาร์” ครบ 1 ปี จี้ “บิ๊กตู่” ต้องรับผิดชอบ
หลังถูกฝ่ายค้านปูพรมถล่มร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ว่าเป็นการจัดทำที่ไร้สามัญสำนึก ไม่ดูความสำคัญเร่งด่วนของปัญหาวิกฤติชาติ จัดงบซื้ออาวุธเอาใจแต่กองทัพ ทำให้กลุ่มองค์กรต่างๆออกมากดดันกรรมาธิการงบประมาณฯ พิจารณาปรับเปลี่ยนงบฯให้เข้ากับสถานการณ์ชาติในปัจจุบัน
“We Fair” จี้ กมธ.ฯ จัดลำดับสำคัญ
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 4 มิ.ย. ที่รัฐสภา กลุ่มเครือข่าย We Fair นำโดยนายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ เข้ายื่นหนังสือต่อตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 (กมธ.งบฯ) ขอให้พิจารณาจัดลำดับความสำคัญในนโยบายสวัสดิการสังคม ได้แก่ สุขภาพ การศึกษา ประกันสังคม ที่อยู่อาศัย เงินอุดหนุนเด็ก บำนาญประชาชน มากกว่านโยบายที่ไม่ใช่ลำดับความสำคัญ คืองบฯจัดซื้ออาวุธ ขอให้ทบทวนการจัดสรรงบประมาณใหม่
“พิธา” ตอกย้ำไร้สามัญสำนึก
นายพิธากล่าวว่า ยืนยันว่างบประมาณปีนี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง และไร้สามัญ สำนึก มีการจัดงบระหว่างอภิสิทธิ์ชนกับประชาชนในยามที่ประเทศดิ่งเหว สะท้อนให้เห็นถึงสังคมไทยว่ายังเป็นแบบไหน เรามีหน้าที่ปกป้องสวัสดิการของประชาชนตามที่ให้สัญญาไว้ คือการรีดไขมันเพื่อนำงบของอภิสิทธิ์ชนและงบทหารมาเป็นกองกลางให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปจัดซื้อวัคซีนมากกว่าจัดซื้ออาวุธ และกระจายงบประมาณคืนกลับหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิด-19 จะไปพูดคุยใน กมธ.ฯและรัฐบาล เราต้องโอบอุ้มคนเปราะบางให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ และประเทศไทยต้องฟื้นฟูใหม่
พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า กมธ.งบประมาณฯจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีคิด และสื่อไปถึงรัฐบาลว่าประชาชนไม่ใช่ลูกหนี้ผู้รับใช้ แต่รัฐบาลและข้าราชการเป็นหนี้ประชาชน เงินเดือนทุกบาทมาจากภาษีประชาชน
“เอ๋” ดี๊ด๊ากลับคืนสู่สภาอีกครั้ง
ด้าน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้กลับมาทำงานที่หยุดไปก็คิดถึงสภา เมื่อถามว่า คาดหวังจะกลับมาทำหน้าที่ ส.ส.หรือไม่ น.ส.ปารีณาตอบว่า คาดหวังมาก เมื่อเรื่องไปถึงศาลทำให้มีความหวัง เมื่อถามว่า มีความกังวลในเรื่องคดีหรือไม่ น.ส.ปารีณาตอบว่า ต้องเตรียมพยานหลักฐานเอกสาร มีการเพิ่มทีมทนายที่พรรคพลังประชารัฐเป็นผู้ดูแลจัดการ
กมธ.งบฯนัดแรกเกลี่ยเก้าอี้ลงตัว
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 นัดแรก ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นประธานฯ ส่วนตำแหน่งรองประธานมีทั้งสิ้น 22 คน อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ส่วนโฆษก กมธ.ฯ มีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.ฯ สัดส่วนพรรคพลังประชารัฐร่วมอยู่ด้วย และนายอรรถกร ศิริลัทยากร เป็นเลขานุการฯ
มีงัดข้อเล็กๆตำแหน่งรอง ปธ.2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเลือกตำแหน่งรองประธาน กมธ.ฯ ที่ประชุมมีการถกเถียงกันอย่างหนักในตำแหน่งรองประธาน กมธ.ฯ คนที่ 2 เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติรองประธานคนที่ 1 เป็นสัดส่วนของทางรัฐบาล ส่วนรองประธาน กมธ.คนที่ 2 จะมาจากพรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุดในสภาผู้แทน ราษฎร คือพรรคเพื่อไทย ที่เสนอชื่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง แต่ฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมดึงดันเสนอชื่อนางนาที รัชกิจประการ โดยไม่ต้องคำนึงถึงธรรมเนียมปฏิบัติ ทำให้ฝ่ายค้านไม่พอใจจนต้องพักการประชุมไป 30 นาที ก่อนจะกลับเข้ามาประชุมกันต่อจนได้ข้อยุติในที่สุด
ลั่น “บิ๊กตู่” ลาออกประเทศรอด
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หวังว่าในการพิจารณาชั้น กมธ.งบประมาณฯ จะมองเห็นถึงปัญหาและปรับงบประมาณให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ความจริงเมื่อเกิดวิกฤติฝ่ายบริหารต้องคิดให้เป็น แต่เมื่อฝ่ายบริหารคิดไม่เป็น และไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน การจัดงบประมาณจึงออกมาเละเทะ สะท้อนว่านายกฯไร้ประสิทธิภาพ หมดปัญญาในการแก้ปัญหาประเทศ และไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ด้วยการออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบแบบไร้จิตสำนึก และมักโยนความผิดให้คนอื่น ดังนั้นหากมีความเป็นลูกผู้ชาย ควรยอมรับผิดและลาออกจากตำแหน่ง เปิดทางให้คนอื่นเข้ามา เชื่อว่าประเทศจะรอดพ้นจากวิกฤติได้แน่
“ศรัณย์วุฒิ” ยืนข้าง ปชต.ไม่ย้ายขั้ว
นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวถูกจับตาว่าเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านฝีปากกล้าภาคเหนือ ที่เตรียมย้ายซบพรรคพลังประชารัฐว่า ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐติดต่อมาจริง พยายามโน้มน้าวว่าอีกไม่นานจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อาจมีการยุบสภาในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า แต่ตนยืนยันยังยืนข้างประชา
ธิปไตยชัดเจน ไม่ย้ายข้างไปซบฝ่ายเผด็จการแน่นอน เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตที่ไม่อภิปรายงบประมาณฯจะเกี่ยวกับประเด็นข้างต้นหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิตอบว่าไม่มีประเด็น ที่ไม่อภิปรายเนื่องจากการจัดสรรเวลามีจำกัด ไม่เพียงพอกับเนื้อหาที่ตนจะอภิปราย
ส.ว.เด้งรับตั้ง กมธ.งบฯตีคู่สภา
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. โฆษกวิปวุฒิสภา กล่าวว่า การประชุมวุฒิสภาวันที่ 7 มิ.ย. จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เพื่อพิจารณาคู่ขนานไปพร้อมกับสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ยังมีวาระการพิจารณา พ.ร.ก. 2 ฉบับ ที่สภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องมา คือ พ.ร.ก.ลดอัตราดอกเบี้ย และ พ.ร.ก.ซอฟต์โลนฉบับใหม่ ส่วนการประชุมวิปวุฒิสภาวันที่ 9 มิ.ย.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เมื่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแล้ว คาดว่าจะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของวุฒิสภาได้ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้
“วิรัช” เฉยๆทำใจได้ถูกชี้ทุจริต
นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องพร้อมบุคลากรทางการศึกษา 84ราย ในคดีถูกกล่าวหาทุจริตสร้างสนามฟุตซอลว่า เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ไม่ได้กังวลอะไรเฉยๆ กว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นคาดต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ส่วนการต่อสู้คดีได้มีการฟ้องร้องคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่าสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ แต่ว่าศาลยังไม่ได้รับพิจารณาเนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19 ไม่เช่นนั้นเรื่องดังกล่าวคงเสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อถามว่า หากผลออกมาเป็นลบ นายวิรัชตอบว่า คิดว่าไม่เป็นไร ไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น หยุดแค่ไหนก็หยุดแค่นั้น คนอื่นเขาไม่ได้เตรียมตัวเลย เขาไปปุ๊บปั๊บก็มี แต่เรื่องนี้เรารู้มาตั้งนานแล้ว แล้วเราก็เตรียมใจเตรียมอะไรไว้ตั้งนาน 2 ปีแล้ว ส่วนตัวมั่นใจในความบริสุทธิ์ และความยุติธรรมของศาล
ยื่นสอบ “ตู่–ป๊อก” ถ่วงฉีดวัคซีน
ช่วงสายที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กรณีขัดขวางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดซื้อวัคซีนเพื่อนำมาป้องกันเชื้อโควิด-19 นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 มีการพูดถึงเหตุที่รัฐบาลเชียร์วัคซีนบางยี่ห้อ เหมือนเจตนาดีเลย์ยี่ห้ออื่น ทำให้ประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลมีผลประโยชน์ มีส่วนต่างมีเงินทอนกับวัคซีนหรือไม่ รวมถึงมีข้อสงสัยที่นายกฯและ รมว.มหาดไทยขัดขวาง อปท.จัดซื้อวัคซีน เป็นการตอกย้ำพิรุธ และการฉีดวัคซีนอาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ การดีเลย์อปท.สั่งจองและฉีดวัคซีนให้ประชาชน เป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายของ ป.ป.ช.
“ปู” โชว์กึ๋น “วิ่งไปพร้อมกับโลก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “วันก่อนพี่โทนี่ (นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ) เล่าในคลับเฮาส์ว่า ดิฉันมอบหนังสือ Quantum Marketing ให้ท่าน หนังสือเล่มนี้จุดประกายพูดถึงศาสตร์การตลาดที่เราเคยใช้ไม่เพียงพอ เทคโนโลยีใหม่ๆพัฒนาขึ้นต้องคิดใหม่ทำใหม่ว่าการทำธุรกิจในอนาคต การตลาดไม่ใช่แค่ขายเก่ง ต้องวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเข้าใจลูกค้าในระดับลึกลงแต่ละคน อย่างที่พี่โทนี่เคยพูดถึงอยู่บ่อยๆ เรื่อง Data Analytics ต่อไปนักการตลาดต้องคิดถึงขั้นที่เรียกว่าเป็น Quantum CMO (Quantum Chief Marketing Officer) กันเลยก็ว่าได้ ส่วนการบริการหรือการขายในโลกอนาคต ทุกภาคส่วนต้องสร้างความพร้อมให้กับบุคลากรให้เข้าใจ นำศักยภาพของเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาใช้ อย่าวิ่งตามต้องวิ่งไปพร้อมๆกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป”
“บิ๊กป้อม” เร่งสางประมงเถื่อน
ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติครั้งที่ 2/2564 โดยที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และเห็นชอบ แผนการบริหารจัดการประมงทะเลของประเทศไทย ปี 2563-2565 มุ่งจัดการประมงให้ยั่งยืนภายใต้ความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมที่ดี รวมถึงเห็นชอบแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมง IUU (NPOA-IUU) ฉบับที่ 2 และเห็นชอบมาตรการเร่งรัดดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการทำประมง และแรงงานในภาคประมงให้ได้ผลทางคดีรวดเร็วและเป็นธรรม
บี้ ยธ.เร่งคลี่ปม “ตาร์” หายตัว
วันเดียวกันเวลา 10.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวนายวันเฉลิม หรือตาร์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมสมาชิกแอมเนสตี้ประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกทวงถามความคืบหน้าคดีนายวันเฉลิม หายตัวไปในกัมพูชาครบ 1 ปี โดยมีว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม รับหนังสือนางปิยนุช โคตรสาร ผอ.แอมเนสตี้ประเทศไทย เปิดเผยว่า ขอให้กระทรวงฯผลักดันและให้คำมั่นเพื่อปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย ให้สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ และเร่งรัดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานอัยการสูงสุด สอบสวนค้นหาข้อเท็จจริงรอบด้าน นำตัวคนผิดมาลงโทษ รวมถึงขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีส่วนร่วมสอบสวนคดีอย่างใกล้ชิด
จี้ “นายกฯตู่” รับผิดชอบ
ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ นำโดยนายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง สมาชิกกลุ่ม We Volunteer (วีโว่) และ น.ส.มณฑาทิพย์ ศรีสุนทร ยื่นจดหมายเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รับผิดชอบต่อการถูกอุ้มหายของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ครบ 1 ปี น.ส.มณฑาทิพย์อ่านแถลงการณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เหลียวแล ทั้งที่ คสช.มีส่วนคุกคามนายวันเฉลิม กล่าวหาในคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ไม่รายงานตัว ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โพสต์ข้อความให้ร้ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติด และคดีความมั่นคงเมื่อปี 2561 จนต้องลี้ภัยในกัมพูชา ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์รับผิดชอบในฐานะผู้บริหารประเทศ ก่อนหย่อนจดหมายเปิดผนึกใส่ตู้ไปรษณีย์ หน้าทำเนียบรัฐบาล