@@…ระหว่างที่รัฐบาลกำลังสาละวนกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิดละลอก 3 กันอยู่และยังไม่มีทีท่าจะดีขึ้น แถมปัญหาการนำเข้าวัคซีนก็ยังเกิดความล่าช้าในความรู้สึกของประชาชน ที่รอคอยความหวังที่จะฉีดวัคซีน ถึงแม้จะเสี่ยงก็ตามที
@@…ทำให้ฝ่ายค้านได้ทีขย่มไล่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเวทีผ่านออนไลน์ #ไทยไม่ทน ในหัวข้อ “สามัคคีภาคการเมือง ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่ หมอชลน่าน ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เพื่อไทย พูดได้น่าคิด ว่า ทุกข์ทีคนไทยมีในตอนนี้ แล้วทนไม่ได้ ต้องออกมาไล่ เรื่องที่ 1. ประชาชนทุกข์จากวิกฤติโรคระบาด โควิด-19 เรื่องที่ 2 คือ ทุกข์ที่ไม่มีจะกิน ไม่มีงานทำ กิจการร้านค้า ธุรกิจของพวกเรากำลังจะเจ๊ง
@@…เรื่องที่สาม ที่ทำให้เราทนต่อไปไม่ได้ เราอยู่ด้วยความไร้ความหวัง ไร้อนาคต เรามองไม่เห็นทางว่าเราจะอยู่ในบ้านนี้เมืองนี้ต่อไปให้ดี เพื่อส่งต่อให้ลูกหลานอย่างไร และเรื่องสุดท้ายที่เราไม่ทน เรื่องที่ 4 คือ เรื่องที่เราไม่มีความเป็น ประชาธิปไตย ในบ้านนี้เมืองนี้ เราขาดเสรีภาพ เสมอภาค ไม่มีความเอื้ออาทร ต่อกันและกัน ไม่มีความเป็นพี่เป็นน้อง หลายคนต้องถูกคุมขัง เพียงเพราะ เขาเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยอันสมบูรณ์
@@…ต่อจากงานเสวนาดันกลับมีกระแสไวรัลในโลกโซเชียล “ย้ายประเทศกันเถอะ” ที่ปิดขึ้นมาเพียง 3-4 วัน ยอดพุ่งขึ้นไปทะลุถึง 6-7 แสน นี่คือปรากฏการณ์ที่รัฐบาลจะประมาทไม่ได้ เพราะ “มันสะท้อนให้เห็นว่าคนสิ้นหวังกับระบบการบริหารประเทศที่ประชาชนสิ้นหวังกับรัฐบาล”
@@…นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนที่ประชาชนกลุ่มหนึ่งอึดอัด ไม่พอใจ รัฐบาลท็อปบู๊ต ซึ่ง “บิ๊กตู่” จะมองข้ามไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องจริง ดังนั้นการเร่งจังหวะของฝ่ายค้านในช่วงนี้ ถือว่าเป็นการได้เปรียบทางการเมือง ชี้ให้เห็นจุดอ่อน ตอกย้ำความล้มเหลวผิดพลาด เพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลทุกวันปั่นกระแสความเกลียดชังรัฐบาล ถ้าหากรัฐบาลยังแก้เกมไม่ทัน ไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา การบริหารจัดการของรัฐบาลยังไม่เป็นเอกภาพ องคาพยพไม่พร้อม เตรียมรูดม่านลาโรงได้เลย
@@…ถึงอย่างไร “ผู้พันบานเย็น” ขอเอาใจช่วยรัฐบาล ให้เร่งออกมาตรการเยียวยา เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ควบคู่กับการจัดหาวัคซีนโดยเร็ว ลดกระแสดราม่าสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นวัคซีนป้องกันรัฐบาลเรือเหล็กนำพาประเทศและประชาชนให้รอดปลอดภัยจากวิกฤติครั้งนี้ได้
@@…จบเรื่องร้อนๆ มาดูกิจกรรมเหล่าทัพกันบ้างเริ่มจาก…ดูแลคนไทยต่างแดน พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ตระหนักในความสำคัญของการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ ตลอดจนการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ได้สั่งการให้จัดอากาศยานแบบแอร์บัส 320 สนับสนุนภารกิจการลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปมอบให้สภากาชาดอินเดีย และอพยพคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศ รวมทั้ง ภารกิจการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศสายแพทย์
@@…โดยจัดทีมแพทย์จากกองทัพอากาศและเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปรับข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ที่ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินขากลับนี้ ทางสถานทูตได้ประสานเครือข่ายคนไทยในกรุงนิวเดลีและเมืองใกล้เคียงแล้ว พบว่า ไม่มีคนไทยในอินเดีย รวมทั้งข้าราชการและครอบครัวของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ที่มีความประสงค์ที่จะอพยพเดินทางกลับประเทศหรือกลับมารักษาตัว เนื่องจากคนไทยในอินเดียส่วนหนึ่งมีครอบครัวอยู่ที่นั่น จึงมีเพียงข้าราชการสถานทูต รวมจำนวน 4 คน ซึ่งประกอบด้วย ผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อโควิด 3 คน และผู้มีความเสี่ยงสูง 1 คน ที่เดินทางมาพร้อมเที่ยวบินนี้เท่านั้น
@@…ตั้งศูนย์ ศปม.ทบ. “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ.” (ศปม.ทบ.) เป็นสื่อกลางรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อประสานไปยังศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ของรัฐบาล (อาคารนิมิบุตร) หรือสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ต่างๆ โดยสามารถประสานขอรับการช่วยเหลือได้ที่เบอร์ 0-2270-5685-9 ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 64 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย
@@…นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ได้มอบให้หน่วยทหาร นำหน้ากากอนามัย “หนึ่งกล่องต่อหนึ่งครอบครัว”กระจายออกมอบให้ประชาชนตามที่พักอาศัย ร้านค้า แหล่งชุมชน แบบ “Delivery mask” ให้ถึงมือประชาชนอย่างทั่วถึงมากที่สุด โดยจะดำเนินการตลอดเดือน พ.ค.นี้ ล่าสุดในวันนี้ ในพื้นที่ กทม. กำลังพลจิตอาสาจากกองทัพภาคที่ 1 ได้ออกประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจการปฏิบัติตนเพื่อป้องกัน COVID–19 พร้อมมอบหน้ากากอนามัย 1,500 กล่อง ให้กับประชาชนใน 4 พื้นที่ ได้แก่ ชุมชนตลาดกลางดินแดง เขตดินแดง, ชุมชนตรอกสลักหิน เขตปทุมวัน, ชุมชนคลองเปรมประชาพัฒนา เขตหลักสี่ และชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร
@@…ประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรง พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร.ได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Tele Conference : VTC) ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีหัวข้อการประชุมที่สำคัญ คือ การเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาด ของ COVID -19 ในส่วนของกองทัพเรือ ตลอดจนการจัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม ในการสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข
@@…นอกจากนั้นแล้ว ผบ.ทร.ยังได้เน้นย้ำให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือสร้างการรับรู้ให้แก่กำลังพล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งก่อนการประชุมผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน เสียสละ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ในช่วงเวลาวิกฤติของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส CIVID–19
@@…พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ส่งมอบอุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้กับ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์รวมไปถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่กลุ่มเสี่ยง และโรงพยาบาลสนามที่ยังคงขาดแคลนอุปกรณ์ในการใช้ป้องกันตนเอง
@@…พล.ต.อุทิศ อนันตนานนท์ ผบ.ฉก.ยะลา มอบข้าวสารและเครื่องบริโภค ตามโครงการ “หน่วยเฉพาะกิจยะลา ใส่ใจ ห่วงใย ประชาชนกลุ่มเปราะบาง” ให้กับฉก.ยะลา 12,ฉก.ทพ.41,ฉก.ทพ.47 เพื่อนำไปมอบแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด และการละศีลอดห้วงเดือนรอมฎอน จำนวน 420 ถุง
………………..
ผู้พันบานเย็น