จากกรณีพรรคฝ่ายค้านนัดจัดงานเลี้ยงกระชับมิตร ในวันที่ 7 ธ.ค. ที่โรงแรมเอสซี พาร์ค ทำให้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สบช่องยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ ระบุอาจเข้าข่าย ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม หากศาลฎีกาพิพากษาให้มีความผิดจะส่งผลให้ ส.ส.ฝ่ายค้านที่เข้าร่วมเป็นบุคคลต้องห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
“เรืองไกร” ชง ป.ป.ช.สอบปาร์ตี้ฝ่ายค้าน
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า เช้าวันที่ 7 ธ.ค. จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทางไปรษณีย์อีเอ็มเอส ขอให้ตรวจสอบพรรคฝ่ายค้านจัดเลี้ยงกระชับมิตรวันที่ 7 ธ.ค. ที่โรงแรมเอสซี พาร์ค เพราะมีมาตรฐานทางจริยธรรมกำกับอยู่ ข้อ 9 และข้อ 10 ห้ามมิให้ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ส.ส.) รับประโยชน์อื่นใด ฝ่าฝืนจะมีโทษตามมา ส.ส.ที่ไปร่วมงานโดยมิได้ออกเงินเองอาจเข้าข่าย ป.ป.ช.ตรวจสอบรายจ่ายจัดงานได้ พรรคที่เป็นเจ้าภาพต้องทำบัญชีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง และมี ส.ส.รายใดบ้าง ไปร่วมงาน จะทำให้ ป.ป.ช.ได้หลักฐาน ถ้าไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า ส.ส.ที่ไปร่วมงานมีพฤติการณ์เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม อาจมีปัญหาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 หากศาลฎีกา พิพากษาตามที่ถูกกล่าวหา จะมีผลเป็นบุคคลต้องห้าม ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงขอให้ ป.ป.ช.รีบตรวจสอบ
พท.โวเป็น รบ.ชีวิตชาวบ้านดีขึ้น
ที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อม ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายนพ ชีวานันท์ นายจิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความทุกข์ยาก ของชาวนาในพื้นที่ โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า ลงพื้นที่ มารับทราบปัญหาจากปากประชาชน พรรคจะใช้กลไกสภาฯสะท้อนปัญหาให้รัฐบาลชดเชยเยียวยา ขณะที่ ส.ส.พื้นที่ได้ประสานงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แต่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจ จะนำสิ่งที่ได้รับฟังไปพัฒนาเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาให้ชาวนาไทยอยู่ดีกินดี มีชีวิตที่ดีกว่าวันนี้ จะฟื้นศักดิ์ศรีให้ชาวนาไทยกลับมายืนตรงมองฟ้าอย่างองอาจอีกครั้ง ปัญหาเชิงโครงสร้างต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบครบวงจร เมื่อมีโอกาสกลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยต้องดีขึ้น
จี้ “บิ๊กตู่” คืนโอกาสคนกรุงเข้าคูหา
นพ.ชลน่านให้สัมภาษณ์ถึงการส่งผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.ว่า ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นหรือผลเสียที่จะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าหากพรรคส่งจะเกิดประโยชน์ อย่างไรกับคนกรุงเทพฯ หรือเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ชาติบ้านเมืองอย่างไร จะพิจารณาเร็วๆนี้ เมื่อถามว่า ที่อาจไม่ส่งเป็นเพราะมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม อยู่แล้วใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าพรรคจะไม่ส่ง ยังอยู่ในขั้นตอนการ ตัดสินใจ เมื่อดูตัวคู่แข่งที่พรรคต่างๆประกาศออกมา ต้องยอมรับว่าต้องพิจารณาเรื่องนี้ควบคู่ไปด้วย เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ต้องดูสถานการณ์ที่เหมาะสมคือบ้านเมืองสงบเรียบร้อย นพ.ชลน่านตอบว่า ความสงบของ พล.อ.ประยุทธ์หมายถึงอะไร ตอนนี้บ้านเมืองสงบเงียบจนเป็นป่าช้าแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรที่จะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไม่ได้เลย อยากเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์รีบคืนโอกาสให้คน กทม.ได้เลือกตั้งผู้นำ
วาดฝันชิง ส.ส.ภาคกลางเกินครึ่ง
เมื่อถามถึงการปักธงในพื้นที่ภาคกลางในการ เลือกตั้งทั่วไป นพ.ชลน่านกล่าวว่า พื้นที่ภาคกลาง เราไม่แข็งแรง จึงต้องทำให้พื้นที่แข็งแรงเริ่มจากตัว ผู้สมัคร ส.ส. ตอนนี้ภูมิใจที่ทีมงานพรรคเพื่อไทยรวมถึง ส.ส. ลงพื้นที่กันต่อเนื่อง ยังมั่นใจว่าเครือข่าย เราในระดับฐานรากยังแน่นแฟ้น ยืนยันว่าเราจะส่งทุกเขต พื้นที่ภาคกลางมี 90 กว่าที่นั่ง เราตั้งใจว่าจะทำให้ได้เกินครึ่ง ตั้งเป้าให้ได้มากกว่าสมัยพรรคไทยรักไทย เพราะพรรคเพื่อไทยเราประกาศแลนด์สไลด์ พื้นที่ไหนที่ไม่แข็งแรงเสริมรากฐานให้แข็งแรง ส่วนพื้นที่แข็งแรงอยู่แล้วเราก็เติมให้เต็ม
เหน็บน่าตรวจสภาพจิต “เรืองไกร”
นพ.ชลน่านกล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.เตรียมยื่นคณะ ป.ป.ช.สอบงานเลี้ยงพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยกล่าวติดตลกว่าหลังจากนี้คงต้องไปยื่น ป.ป.ช.กรณีภรรยาจัดข้าวให้นายเรืองไกรกินเป็นการให้ทรัพย์สินอื่นด้วยหรือไม่ เป็นสิทธินายเรืองไกรจะไปร้อง แต่จะชอบธรรมหรือไม่ตนไม่ขอวิจารณ์ ไม่กังวล งานเลี้ยงวันที่ 7 ธ.ค. ฝ่ายค้านจะมาสรุปผลงานในรอบปี พร้อมวางแผนทำงานในอนาคต ที่ผ่านมาอาจมีอุปสรรคบ้าง เชิญนายเรืองไกรมาร่วมทานอาหารวันที่ 7 ธ.ค.ด้วยก็ได้ คนร้องน่าจะถูกตรวจสอบสภาพทางจิตด้วยนะ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คำให้สัมภาษณ์นายเรืองไกร อาจคลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริง งานวันที่ 7 ธ.ค. มีเพียงแต่หัวหน้าและเลขาธิการพรรค ไม่ได้เอา ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านมาเลี้ยงสังสรรค์กัน เราประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านกันประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ครั้งนี้เพียงเปลี่ยนสถานที่ นายเรืองไกรน่าเอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นมากกว่า เช่นช่วยกันตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล อะไรเป็นเรื่องทุจริต อะไรเป็นผลประโยชน์ของประชาชน น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า
อ้างความสงบกลบความไม่พร้อม
นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์ใน กทม.ตอนนี้ ความรุนแรงทางการเมืองไม่มีให้เห็น สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดก็ลดลง ปัญหาน้ำท่วมที่หวั่นเกรงกันก็ผ่านพ้นไปแล้ว สถานการณ์โดยรวมถือว่าพร้อมหากจะจัดการเลือกตั้ง แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะยกเรื่องความสงบขึ้นมาอ้างแต่คนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องการสร้างความสงบคือตัว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ใครที่ไหนดังนั้น ที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่อยากให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตอนนี้ เป็นเพราะผลโพลคน กทม.สนับสนุนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม สูงเป็นอันดับหนึ่งถึง 34.37% และ พล.อ.ประยุทธ์กับพรรคพลังประชารัฐยังตกลงกันไม่ลงตัวว่าจะสนับสนุนใครลงเลือกตั้ง จึงยังไม่พร้อมให้เลือกตั้งช่วงนี้หรือไม่ เตะถ่วงการเลือกตั้งออกไปก่อน ทั้งที่ประชาชนอยากเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มาแก้ปัญหาให้เต็มที่แล้ว อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์คิดถึงความรู้สึกประชาชนมากกว่าความต้องการของตัวเอง
หลังปีใหม่ กก.คิกออฟบุก กทม.
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงนิด้าโพลเผยผลสำรวจผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่ 8 พรรคก้าวไกลอยู่ลำดับที่ 4 ว่า พรรคไม่ได้กังวลหลังปีใหม่จะเริ่มต้นคิกออฟแคมเปญ กทม.เปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. มั่นใจคงจะได้รับคะแนนความนิยม น่าจะชัดเจนว่าปลายไตรมาสที่ 1 หรือไตรมาสที่ 2 คงจะมีการเลือกตั้ง กทม.ภายใน 3 เดือนน่าจะพอ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.หรือว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต รวมถึง ส.ส.เขตทำงานมาหลายเดือนแล้ว เราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ ที่มีกระแสข่าวว่าแคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคคือ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าคงไม่ใช่ความจริง จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายให้รอดูทีเดียว เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะคว้าชัยชนะได้หรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่า มีความเป็นไปได้ เพราะพื้นที่ กทม.คะแนนความนิยมของพรรค การทำงาน เชื่อมั่นว่าได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ
“ชัยธวัช” ไม่กังวล “เรืองไกร” ไล่ราวี
นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า กรณีนายเรืองไกร ส่งหนังสือถึง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบงานเลี้ยงกระชับมิตรวันที่ 7 ธ.ค.นั้น การจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมืองไม่ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือพรรคร่วมรัฐบาลทำมาตลอด ปกติสลับหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ไม่ต่างกับการจัดกิจกรรมอื่นๆ ส่วนตัวไม่กังวล ไม่น่าเกี่ยวกับการรับผลประโยชน์ กิจกรรมวันที่ 7 ธ.ค.มี 3 ส่วนคือ 1.ประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทำทุกสัปดาห์เป็นปกติ 2.แถลงสรุปความเห็นพรรคร่วมฝ่ายค้านรอบปีที่ผ่านมา 3.ทานอาหารร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกสัปดาห์มีอยู่แล้ว
จวกผู้นำคุ้นชินแต่ระบบทหาร
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายกฯระบุให้คนรวยขึ้นทางด่วน ส่วนคนรายได้น้อยให้ใช้ทางธรรมดา ว่า เป้าหมายทางด่วนไม่ใช่แยกชนชั้นวรรณะ แต่เพื่อทำให้การกระจายจราจรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทางด่วนไม่ใช่ของคนรวย อ้างไม่ได้ว่าอยากได้ถนนมีคุณภาพก็เสียเงินขึ้นทางด่วน ไม่มีเงินจ่ายต้องเจอถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ มันไม่ใช่ นายกฯคิดว่าถ้าเป็นคนจนไม่มีเงินจ่ายต้องทน ถ้าเป็นคนรวยจ่ายเงินจะได้ของที่ดี รัฐคิดแบบนี้ไม่ได้ จะเห็นมุมมองตลกไม่เข้าใจความเสมอภาค นายกฯอาจเคยชินกับระบบทหารที่ไม่เคยมีความเท่าเทียมกัน ทหารชั้นสัญญาบัตรกับทหารชั้นประทวนยังแยกห้องน้ำกันเลย การปฏิบัติต่างกันมีระบบคล้ายวรรณะแฝงในกองทัพ คนรายล้อมตัวเป็นทหารทั้งหมด ส.ว. 250 คนมากกว่าครึ่งเป็นทหารตำรวจ
ปชป.มั่นใจคน กทม.เทใจให้
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คาดว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. จะเป็นช่วง มี.ค.65 ยืนยันพรรคพร้อมส่งผู้ว่าฯกทม.และ ส.ก.แน่นอน ครั้งนี้มั่นใจชาวกรุงเทพฯ จะไว้วางใจให้ผู้สมัครของพรรคเข้าไปทำหน้าที่ทั้ง ส.ก.และผู้ว่าฯ กทม.แน่นอน คณะกรรมการบริหารพรรคนัดประชุมวันที่ 13 ธ.ค. วาระสำคัญเพื่ออนุมัติสมาชิกพรรค รับทราบการดำเนินการสาขาพรรคและคณะกรรมการ 15 คณะ รวมถึงทั้ง 5 ภาค รายงานความคืบหน้าการปฏิบัติงาน และมีวาระการพิจารณาการส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ด้วย
“นิพิฏฐ์” ลา “ชวน” ใครเชื่อใจตามมา
เมื่อเวลา 15.45 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบอำลานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นำพวงมาลัยขึ้นไปกราบลาที่ห้องทำงานนายชวน ชั้น 3 อาคารควง อภัยวงศ์ ทั้งคู่คุยกันอยู่กว่า 45 นาที จากนั้นนายนิพิฏฐ์ลงมาถวายพวงมาลัยสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรค แล้วนำพวงมาลัยไปสักการะรูปภาพ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เดินดูพิพิธภัณฑ์พรรค ก่อนมายืนสงบนิ่งหน้าอาคารครู่หนึ่งซึมซับบรรยากาศเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นเปิดเผยว่า นายชวนอวยพรขอให้สำเร็จและโชคดี ฝากให้รักษาอุดมการณ์ความซื่อสัตย์สุจริตที่มีตลอด 30 ปี อย่าโดนกลืน ให้เผยแพร่อุดมการณ์นี้กับพรรคอื่นด้วย ยืนยันออกแล้วจะไม่กลับมา ขอฝากให้สมาชิก พรรครักษาพรรคไว้ สู้ให้พรรคประชาธิปัตย์อย่างไร จะทำให้พรรคใหม่เป็น 2 เท่า ถือเป็นสงครามครั้งสุดท้าย ใครเชื่อใจตนให้ตามไป ใครคิดว่าเป็นนักการเมืองใช้ไม่ได้ไม่ต้องตามไป
เผย 2 ปีได้คุยกับ “จุรินทร์” 2 ครั้ง
นายนิพิฏฐ์กล่าวอีกว่า จะไปสังกัดพรรคใหม่ลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ จะเปิดตัวปลายเดือน ม.ค.ปี 65 เปลี่ยนค่ายเหมือนนักกีฬาเมื่อเลือกตั้งใหม่จะสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ตามกติกา และกฎหมาย ตั้งแต่เกิดเรื่องผู้สมัคร ส.ส.พัทลุงไม่ได้พูดคุยกับ ส.ส.พัทลุงทั้ง 2 คน และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 2 ปีกว่าได้พูดคุยกับนายจุรินทร์ 2 ครั้ง จุดแตกหักคือพรรคส่งผู้สมัคร ส.ส.พัทลุงโดยไม่บอกหรือสอบถาม อยู่ต่อไปคงไม่มีประโยชน์แล้ว คงไม่กลับมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์อีกแล้วแม้อนาคตจะเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ขอไปสู้ศึกเลือกตั้งครั้งสุดท้ายกับพรรคใหม่ ถ้าไม่ได้จะไปธุดงค์
พลังธรรมใหม่ส่ง ส.ส. 400 เขต
ที่วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี พรรคพลังธรรมใหม่ จัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 1/2564 มี นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เป็นประธานการประชุมเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 15 คน โดย นพ.ระวียังได้เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป ประกาศพร้อมต่อสู้ทุกรูปแบบ จะส่ง ส.ส.ครบ 400 เขต นพ.ระวีกล่าวถึงข้อสรุปพรรคร่วมรัฐบาลแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ว่ายังไม่พอใจ คาดว่าจะหาร 100 พรรคไม่เห็นด้วยยังเสนอหลักการ ส.ส.พึงมีและคะแนนไม่ตกน้ำต้องคงอยู่ ค่าสมาชิกพรรคมีแต่คนอยากขอให้ยกเลิก แต่กลับเป็นแค่ 200 บาทตลอดชีพ 20 บาทน่าจะพอแล้ว พรรคเล็กจะต่อสู้ถึงที่สุดต้องไปชี้ขาดกันในสภาฯ
ม็อบ 3 นิ้วเรียกร้องปล่อยเพื่อน
เมื่อเวลา 17.30 น. บรรยากาศที่หน้าศาลฎีกา สนามหลวง กลุ่มพลเมืองโต้กลับ กลุ่มราษฎรและคนเสื้อแดงที่ไม่เอาเผด็จการ ร่วมกันจัดกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเรา” เป็นวันที่ 106 โดยได้ร่วมยืนสงบนิ่งถือป้ายและรูปภาพของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายอานนท์ นำภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง รวมถึงแกนนำม็อบคนอื่นๆที่ยังถูกจับกุมคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยไม่ได้สิทธิในการประกันตัว เป็นเวลา 1.12 ชั่วโมงพร้อมกับชูสามนิ้วเรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112