นางเฉลิม มีธะระ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ถนนริมน่าน เขตเทศบาลเมืองตะพานหิน จัังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยลูกๆขะมักเขม้น ในการทำขนมครกขายให้ทันต่อลูกค้า โดยร้านของเธอ ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองตะพานหินจะรู้จักกันในนามขนมครกป้าเฉลิม เป็นขนมครกโบราณ ที่นับวันจะหารับประทานยาก เก่าแก่ที่นางเฉลิม ขายเพื่อเลี้ยงครอบครัว ส่งลูกเรียนจนจบ มากว่า 30 ปี
ยายเฉลิม บอกว่า ขนมครก ของตนเองเป็นสูตรโบราณที่หารับประทานยากแล้ว เพราะส่วนใหญ่ เขาจะหันไปขายขนมครกชาววังบ้าง ขนมครกหน้าแตก ตามยุคสมัยบ้าง ทำให้ขนมครกโบราณ ของคนไทยนับวันจะสูญหายไปเรื่อยๆ โดยสูตรการผสมแป้ง การทำขนมครกโบราณ จริงๆ นอกจากจะมีแป้งข้าวจ้าว เกลือ น้ำตาล กะทิ แล้ว ยังต้องมีการใส่ข้าวสุก ลงไปด้วย และได้ปรับสูตรเพิ่มเติม คือ ใส่ข้าวไรท์เบอรี่ลงไป เพื่อเพิ่มวิตตามินให้กับขนมครก โดยเมื่อนำแป้งหยอดลงไปในเตาขนมครก เมื่อสุกแล้ว จะโรยต้นหอมเล็กน้อย พร้อมที่จะแคะออกจากเตา เสิร์ฟพร้อมกับน้ำตาลทรายขาว บนใบตองที่เป็นวัสดุธรรมชาติ หาง่ายในท้องถิ่น ก็จะได้ขนมครกโบราณขนานแท้
สำหรับร้านขนมครกป้าเฉลิม ะขายที่บริเวณถนนริมน่าน เยื้องกับหน้าวัดเทวประสาท ภายในเขตเทศบาลเมืองตะพานหิน ตั้งแต่เช้าตรู่สายๆก็หมด โดยมีรายได้เดือนละ 30,000 บาท พอเลี้ยงครอบครัว ส่งลูกเรียนจนจบถึง 2 คน
ยายเฉลิม แนะนำสำหรับผู้ที่ตกงาน ในช่วงโควิด-19 สามารถนำไปทำและประกอบอาชีพได้ เนื่องจากไม่ต้องลงทุนมาก และวิธีการทำก็ง่าย แต่เป็นอาหารที่คนไทยนิยมรัปประทานมาก โดยตอนนี้ลูกของตนเองที่ตกงานก็มาช่วยกันขาย ซึ่งสามารถที่จะมีอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้
