วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2025
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • แผนผังเว็บไซท์
  • Login
น่าน
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
น่าน
No Result
View All Result
Home สถานที่ท่องเที่ยว

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา – น่าน

น่าน by น่าน
6 ปี ago
in สถานที่ท่องเที่ยว
Reading Time: 1min read
166
0
105
SHARES
210
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา – น่านแหล่งท่องเที่ยว

ผลิตภัณฑ์ / ตราสินค้า :
รูป ผลิตภัณฑ์, แบรนด์, บริษัท
รูป ผลิตภัณฑ์, แบรนด์, บริษัท
เจ้าของบริษัท/ฝ่ายการตลาด/ฝ่ายข้อมูล มีความสนใจที่จะลงโฆษณา ยี่ห้อสินค้า, ผลิตภัณฑ์, ตราสินค้า หรือปรับฐานข้อมูลให้ ล่าสุด ติดต่อสอบถามได้ที่อีเมล์ อีเมลล์
ข้อมูล : ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ป่าต้นน้ำ ป่าดึกดำบรรพ์ปลายทางหิมาลัย ขุนเขาใต้ทะเล ค้นพบดอกชมพูภูคา ไม้หายากที่จะบานในราวเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

น่าทึ่งมากที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้เคยคว้ารางวัลยอดเยี่ยม รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 7 ประจำปี 2551 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติภาคเหนือ โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 1,065,000 ไร่ หรือ ประมาณ 1,704 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 8 อำเภอในจังหวัดน่าน คือ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอท่าวังผา อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง อำเภอทุ่งช้าง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข และอำเภอแม่จริม สภาพทั่วไป ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ประกอบด้วยป่า 6 ประเภท ได้แก่ ป่าดงดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าสนธรรมชาติ และทุ่งหญ้า เป็นแหล่งของพันธุ์ไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ และพรรณไม้เฉพาะถิ่น เทือกเขาดอยภูคาประกอบด้วยแนวภูเขาสูงสลับซับซ้อน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของปลายเทือกเขาหิมาลัย โดยมียอดภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดน่าน สูงถึง 1,980 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ดอยภูคายังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว และลำน้ำว้า จากทะเลสู่ทิวเขา มีข้อสันนิษฐานหนึ่ง ระบุว่า บริเวณอุทยานฯ แห่งนี้ เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อน ก่อนจะเกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นดินสองผืนใต้ทะเลเข้าหากัน ทำให้แผ่นดินโก่งตัวขึ้น น้ำทะเลใต้ดินระเหยไป เหลือเพียงสินแร่เกลือดังที่พบในอำเภอบ่อเกลือ นอกจากนี้หลักฐานอีกชิ้นที่ยืนยันข้อสมมติฐานนี้ได้ดี คือ การค้นพบสุสานหอยทะเลอายุประมาณ 200 ล้านปี บนดอยภูแวที่บ้านค้างฮ่อ ตำบลสะกาด อำเภอปัว ซึ่งมีลักษณะเป็นหอยแครงสองฝา ทั้งนี้ ดร.จงพันธ์ จงลักษณ์มณี นักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี ได้สรุปว่า เป็นซากหอยที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า พาลีโอคาร์ดิต้า สปีชี่ (Paleocardita Species) อายุ 195-205 ล้านปี จัดอยู่ในยุคไทรแอสซิก (Triassic) ตอนปลาย ที่สุดแห่งดอยภูคา – ต้นชมพูภูคา (Bretschneidera sinensis Hemsl.) พืชหายากในประเทศไทยจะพบเพียงแห่งเดียวที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่สูงถึง 25 เมตร ออกดอกเดือนมกราคมถึงต้นมีนาคมเท่านั้น – ต้นเต่าร้างยักษ์ มักขึ้นในเขตป่าดิบและพรรณไม้เฉพาะถิ่นของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีลักษณะเป็นปาล์มลำต้นเดียว สูงประมาณ 40 เมตร – ก่วมภูคา จัดเป็นพืชหายาก มีลักษณะเป็นไม้ต้นผลัดใบ สูง 15-25 เมตร ใบอ่อนสีแดงเว้าเป็น 5 แฉก ใบแก่สีเขียว 3 แฉก เป็นพืชวงศ์เดียวกับเมเปิ้ลใบห้าแฉก และกระโถนพระฤาษี – นกมุ่นรกตาแดง นกพญาไฟใหญ่ และนกพงใหญ่พันธุ์อินเดีย เป็นนกเฉพาะถิ่นที่หายากมาก หากสามารถพบได้ที่นี่ สถานที่ท่องเที่ยว – ชมพูภูคา เพราะที่นี่คือบ้านหลังสุดท้ายของต้นชมพูภูคา พันธุ์ไม้หิมาลัย ที่หาดูชมได้ยากยิ่งในโลกนี้ โดย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ดร.ธวัชชัย สันติสุข ผู้เชี่ยวชาญพฤกษศาสตร์ป่าไม้ กรมป่าไม้ (ในขณะนั้น) ได้สำรวจพบเป็นครั้งแรกในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ ดอกชมพูภูคาจะผลิดอกตามปลายกิ่งเป็นช่อสีชมพูยาว 30-35 เซนติเมตร เมื่อบานเต็มที่จะมี ช่อดอกเป็นพุ่มสวยงาม ทั้งนี้ ชมพูภูคาเป็นพันธุ์ไม้ที่เคยมีการสำรวจพบตามหุบเขาแถบมณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีนและทางเหนือของเวียดนาม จากนั้นก็ไม่มีรายงานการค้นพบพืชชนิดนี้อีกเลย พื้นที่ป่าดิบเขาดอยภูคาจึงอาจเป็นแหล่งกำเนิดสุดท้ายของชมพูภูคา ซึ่งเป็นไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ ชนิดหนึ่งของโลกก็เป็นได้ จุดชมต้นชมพูภูคาที่เข้าถึงง่ายที่สุด อยู่ริมถนนห่างจากที่ทำการไป 5 กิโลเมตร และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติจัดไว้ 2 เส้นทาง ได้แก่o เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอกชมพูภูคา มีทั้งเส้นรอบใหญ่ ระยะทาง 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง และเส้นทางรอบเล็กระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1.30 ชั่วโมง ซึ่งจะพบพันธุ์ไม้ที่หายากและพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่น สมุนไพร เป็นต้นo เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าดึกดำบรรพ์ (ดอยดงหญ้าหวาย) ระยะทาง 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง จัดเป็นแหล่งดูนกที่คุณจะพบ นกไต่ไม้สีสวย ซึ่งพบได้เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีนกชนิดต่าง ๆ และผีเสื้อนานาพันธุ์ให้ได้ชม – ยอดดอยภูแว ยอดดอยที่มีความสูง 1,837 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เมื่อขึ้นไปบนนั้น จะพบทุ่งหญ้าบนดอย ลานหิน และหน้าผาสูงชัน และมีพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นที่หายาก เช่น ค้อ กุหลาบพันปี โดยในช่วงฤดูหนาวจะมีความสวยงามมากo การเดินทางโดยทางรถยนต์ : จากที่ทำการอุทยานฯ ไปถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูคาที่ 9 (บ้านด่าน) ระยะทางประมาณ 63 กิโลเมตร และเดินทางเท้าขึ้นยอดดอยภูแวประมาณ 6 กิโลเมตร (มีลูกหาบไว้บริการ) – น้ำตกศิลาเพชร อยู่ที่บ้านป่าตอง ตำบลศิลาเพชร เป็นน้ำตกลงมาจากหน้าผาหลายชั้นลดหลั่นกันไป โดยไม่ว่าจะลงเล่นน้ำหรือชื่นชมผีเสื้อนานาชนิด ก็เต็มไปด้วยความรื่นรมย์ไม่แพ้กันo การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 สายน่าน-ปัว ก่อนถึงอำเภอปัว ตรงหลักกิโลเมตรที่ 41-42 มีทางแยกขวามือเข้าทางหลวงหมายเลข 1170 ไปประมาณ 10 กิโลเมตร เดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 10 เมตร – ถ้ำผาแดง เป็นถ้ำที่มีความยาวมากที่สุดในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ภายในยังน่าตื่นตาด้วยด้วยหินงอกหินย้อย สายน้ำตก และลำธารขนาดใหญ่ ในอดีตถ้ำแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่หลบภัยของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่นี่จึงเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์เสี้ยวหนึ่งของเมืองไทยที่น่าสนใจมิใช่น้อย นอกจากการได้เรียนรู้ระบบนิเวศของถ้ำแล้ว คุณจะได้ชมร่องรอยที่พัก เตียงนอนทหาร เตียงนอนคนไข้ที่บางหลังอยู่ในสภาพใช้ได้ หลุมสำหรับซ่อนอาวุธ และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมเลยทีเดียวการเดินทาง ต้องเดินเท้าประมาณ 3 ชั่วโมง ลัดเลาะเนินเขา ซึ่งจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ พันธุ์ไม้ และสัตว์ป่าต่าง ๆ บ้านม้งที่อาศัยอยู่อย่างธรรมชาติกลางหุบเขา – ถ้ำผาฆ้อง ตื่นตากับหินงอกหินย้อยมากมายภายในถ้ำแห่งอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่มีความสำคัญมากต่อระบบนิเวศ ภายในมีคูหาถ้ำจำนวนมากที่มีความต่อเนื่องถึงกัน แต่ละคูหาก็ละลานตาไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปลักษณ์ต่าง ๆ ดูแปลกตา สวยงาม อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝน ถ้ำผาฆ้องจะมีสายน้ำไหลผ่านเข้าไปภายในถ้ำ จึงทำให้ไม่สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ และการเดินทางชมถ้ำต้องเตรียมไฟฉายและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปเอง ควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ล่วงหน้าทุกครั้ง – น้ำตกต้นตอง เป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลาง มี 3 ชั้น สูงประมาณ 60 เมตร ความน่าสนใจอยู่ที่บนโตรกผามีพืชชุ่มน้ำมากมาย เช่น ตะไคร่น้ำ เฟิร์น เป็นต้นการเดินทาง ที่นี่อยู่ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงแยกบ้านเต๋ย ขับรถไปอีกประมาณ 800 เมตร เดินต่ออีกประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นทางเดินลาดชัน – น้ำตกภูฟ้า เมื่อเทือกเขาน้อยใหญ่ที่ทอดตัวสลับซับซ้อน กลายเป็นผืนป่าอันไพศาล ในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา และเมื่อมีป่าก็ต้องมีน้ำ และสายน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอุทยานฯ แห่งนี้ ก็คือน้ำตกภูฟ้านั่นเอง โดยมีความสูงประมาณ 140 เมตร มีทั้งหมด 12 ชั้น หากต้องการเยี่ยมชมต้องใช้เวลาเดินป่าไป-กลับถึง 3 วัน 2 คืน เพราะตัวน้ำตกอยู่กลางป่าลึกใกล้ชายแดนลาว และที่สำคัญต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางด้วยทุกครั้ง – น้ำตกตาดหลวง อยู่ห่างจากบ้านทุ่งเฮ้า อำเภอปัว ประมาณ 1 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำตกสวยงาม เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำ และเป็นแหล่งอนุรักษ์ปลาพลวงอีกด้วย – ล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง เป็นเส้นทางล่องแก่งที่อยู่ในระดับ 3-5 ซึ่งมีแก่งท้าทายมากถึง 20 กว่าแก่ง นับเป็นสุดยอดของความตื่นเต้นที่สุดในการล่องแก่งของเมืองไทยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นล่องแก่ง เนื่องจากค่อนข้างอาศัยทักษะและความชำนาญค่อนข้างมาก ค่าเข้าชม อัตราค่าเข้าอุทยานฯ นักท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ ราคา 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ราคา 200 บาท เด็ก 100 บาท – อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ ราคา 300 -2,500 บาท

ประเภท : แหล่งท่องเที่ยว
ที่ตั้ง : ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1256 ภูคา ปัว น่าน 55120
โทรศัพท์ : T. +6654701000
โทรสาร :n/a
อีเมลล์ :[email protected]
เว็บไซท์ :
จุดเด่น : ที่จอดรถ

 

แผนที่เดินทางไปยัง อุทยานแห่งชาติดอยภูคา – น่าน
Tags: น่านสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแหล่งท่องเที่ยว
Previous Post

น้องณิช โดยนางสาวกาญจนา ก้อนแก้ว

Next Post

สุริยธรรม

น่าน

น่าน

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

Next Post
picture_not_available.jpg

สุริยธรรม

บทความ แนะนำ

เปิดคลังภูมิปัญญาสล่า“พุทธศิลป์วัดแสงดาว”ศูนย์เรียนรู้เชิงช่างพื้นถิ่นภูเพียงสู่พื้นที่สร้างสรรค์น่าน

“หมอชลน่าน”ยันร่าง MOU พรรคก้าวไกล ไม่มีเงื่อนไข ม.112-“เพื่อไทย”ไม่เอานิรโทษกรรม

คนอุบลฯ โวยมีชื่อเลือกตั้งนอกเขตไกลจากอีสานโผล่ทั้งภาคเหนือและภาคใต้

‘น่านบันดาลใจ’จริง!อพท.นำเครือข่ายยกระดับหัตถกรรม-ศิลปะพื้นบ้านน่าน ปั้นเมืองสร้างสรรค์ชงยูเนสโกปีนี้

“น่าน” ผนึกเครือข่าย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “กำแพงเมืองเก่า-คูเมืองน่าน”ต่อเนื่อง เชื่อมประวัติศาสตร์กับวิถีคนน่าน บันดาลไอเดียหนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวยั่งยืน

‘เพื่อไทย”จ่อเปิดเวทีใหญ่บางระกำซ้ำ 30 เมษาฯนี้ ‘สมศักดิ์’ลั่น พท.แลนด์สไลด์ สร้างงานทันควัน-เงินดิจิทัลแก้เศรษฐกิจฉับพลัน

“ธรรมนัส” ลั่น! 8 จว.ภาคเหนือ “พลังประชารัฐ” ได้เก้าอี้ ส.ส.ทุกจังหวัดแน่

“เศรษฐา” ควง “โอ๊ค” ลงพื้นที่แม่กลอง ขอพรหลวงบ้านแหลม พร้อมช่วยลูกพรรคหาเสียง

“ชัยเกษม”แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย วูบ ต้องนำส่ง รพ.ระหว่างหาเสียงเมืองน่าน เตรียมส่งรักษา กทม.พรุ่งนี้

สุดเศร้า! อดีต ส.อบต.ร่วมทีมอาสาดับไฟป่า เจอลมแรงหัวไฟเปลี่ยนทิศโดนคลอกดับ

เชียงใหม่เผชิญวิกฤตฝุ่นควันต่อเนื่อง-ค่ามลพิษอากาศพุ่งยึดแน่นอันดับ 1 เมืองหลักอากาศเลวร้ายที่สุดโลก

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และมูลนิธิพุทธรักษา มอบวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือป้องกัน-ดับไฟป่า

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนส่งทางรถไฟ รถไฟฟ้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตเส้นไหม การผลิตและบรรจุยา การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การหีบฝ้าย ปั่นนุ่น การเคลือบ ชุบ อาบขัดโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ น่าน บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.น่าน เขต 1 สพป.น่าน เขต 2 สพม.เขต 37 สมาคม หน่วยงานราชการ อบจ. อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา น่าน



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!