อนิจจังแห่ง ธรรมนัส พรหมเผ่า สัมพันธ์กับ ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ขณะที่เกิดสภาพ ‘อ-เสถียร’ ในทางการเมือง ไม่ว่าตำแหน่งหัวหน้าพรรค ไม่ว่าตำแหน่งเลขาธิการพรรค ภายใน ‘พรรคพลังประชารัฐ’ อันส่อเค้าลางแห่งการแตกอย่างชนิดยับย่อย
พรรคเพื่อไทยได้ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวใหญ่ เห็นได้จากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค
นั่นก็คือ การจัดวาง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จากจังหวัดน่านให้ไปจ่ออยู่ที่ตำแหน่ง ‘ว่าที่’ หัวหน้าพรรค ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี ก็ไปจ่ออยู่ในตำแหน่งว่าที่ ‘ผู้อำนวยการพรรค’
บทสรุปของพรรคเพื่อไทยว่าจะเขม้นมองไปยัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หรือไม่ ว่าจะเขม้นหมายไปยัง นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี หรือไม่คำตอบจะเริ่มเห็นในการประชุมที่ขอนแก่นวันที่ 28 ตุลาคม
ในวันที่ 28 ตุลาคมสำหรับพรรคพลังประชารัฐก็จะเป็นการประ จันหน้ากันครั้งสำคัญระหว่างกลุ่ม 6 รัฐมนตรีที่นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อีกคำรบหนึ่ง
โดยมีตำแหน่ง ‘เลขาธิการพรรค’ ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น ‘เดิมพัน’ อันแหลมคม
ไม่ว่าจะมองว่าการพบระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ 6 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังการประชุมครม.เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคมดำเนินไปอย่างไร
เป็นการ ‘เชิญ’ เข้าพบ เป็นการ ‘ร้องขอ’ เข้าไปพบ แต่เป้าหมาย เด่นชัดว่าอยู่ที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรคของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
การเคลื่อนไหวต่อเนื่องอย่างครึกโครมตลอดวันอังคารที่ 26 ตุลาคม คือคำถามต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าจะบริหารจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
แม้ว่าคำตอบจะอยู่ที่วันพฤหสบดีในการประชุมพรรคพลังประชารัฐซึ่งมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังเข้าร่วมในฐานะเลขาธิการก็ยังไม่มีความแจ่มชัดอย่างเพียงพอ
จึงกลายเป็นว่าที่คาราคาซังอยู่ภายในพรรคพลังประชารัฐ คือ จะจัดการอย่างไรกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จึงจะเป็นที่พอใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นี่คือความต่างระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย
ขณะที่พรรคเพื่อไทยเดินหน้าไปอย่างมีเอกภาพและทวีความแข็งแกร่ง ภายในพรรคพลังประชารัฐยังอึกทึกไปด้วยความขัดแย้ง
ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
