“ถ้านำอริยสัจ 4 มาประยุกต์ใช้ ต้นเหตุแห่งทุกข์นั้น ไม่ว่าจะทุกข์ทางสังคม โดยเฉพาะคนยากคนจนมีความทุกข์มาก
เหตุแห่งทุกข์มาจากไหน ?…
เหตุแห่งทุกข์ก็มาจากประยุทธ์! เพราะประยุทธ์เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์
ถ้าเราได้คนที่ซื่อสัตย์สุจริต มีความสามารถมาปกครองบ้านเมือง ตัวทุกข์มันก็จะเกิดน้อยลง
ฉะนั้น วิธีที่จะดับทุกข์ได้ ก็ต้องเอาประยุทธ์ออกไป
การจะดับทุกข์ได้ ต้องมีอริยมรรค มีองค์ 8 ต้องใช้สันติประชาธรรม ไปใช้ความรุนแรงกับประยุทธ์ไม่ได้หรอก
เพราะประยุทธ์ เป็นคนเลว เราจะเอาคนเลวไปต่อสู้กับคนเลวนั้น ไม่ถูกต้อง”
…………………………
ขบวนการพรรคส้ม เรียงแถวเสริมกระแสกันมากหน้า-มากตา อย่างเช่นรายนี้
พรรคก้าวไกล
ศุภศิษฐ์ ลีฬหปิยรัตน์
หลังวันที่ ๒๓ ส.ค.ให้ฝ่ายค้านทั้งหมดไม่ร่วมประชุมสภาด้วยการลาออกทั้งหมด ถ้าไม่ลาออกเท่ากับรับรอง สนับสนุนนายกฯ ต่อไป
——————-
“ชลน่าน ศรีแก้ว” ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าคอกเพื่อไทย ผึ่งผายประกาศ
“……..หากเข้าวันพรุ่งนี้ (๒๔ ส.ค.) จะถือว่าเกิน ๘ ปี ก็หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น
ส่วนพรรคฝ่ายค้านจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหรือไม่นั้น หากพลเอกประยุทธ์ยังไม่มีท่าทีใดๆ จริงๆ
ก็จะรอให้หมดเวลาและดูว่าท่านจะแสดงออกอย่างไรหรือไม่ เพราะที่เราเสนอไป ก็แค่ขอให้ท่านยอมรับในหลักนิติธรรมเท่านั้น คือการปฏิบัติตามกฎหมายที่เขียนไว้
โดยท่านควรเป็นคนตัดสินใจเอง
ไม่ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือประชาชนเป็นผู้ตัดสิน…ฯลฯ…..
ฝ่ายค้านจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ (๒๔ ส.ค.) เวลา ๑๓.๓๐ น. แต่หากศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แม้ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติ
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ควรมาปฏิบัติราชการ” ……ฯลฯ…….
“พรุ่งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีมตินัดกันสวมชุดดำ เพื่อไว้อาลัยให้กับพลเอกประยุทธ์ ซึ่งจะกลายเป็นนายกฯ เถื่อน
แต่สุดท้ายแล้ว พรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นจะแต่งหรือไม่ก็เป็นสิทธิของพรรคอื่น แต่เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะแต่ง”
……………………………
มาดูจตุพร พรหมพันธุ์ กับทนายนกเขา “นิติธร ล้ำเหลือ” คณะหลอมโหรงเหรงบ้าง
…….”วันนี้ เราจะปักหลักอยู่ที่ลานคนเมืองจนถึงเที่ยงคืน นับถอยหลังเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปิดฉากประยุทธ์ จันทร์โอชา
ประยุทธ์ จะอยู่หรือไปไม่เป็นปัญหา
เพราะเขาไม่มีสถานะนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีมาตราไหนให้การคุ้มครองแล้ว แต่กลับมาปั่นกระแสการชุมนุมจะล้มการประชุมเอเปก …..ฯลฯ……
หลังจากเที่ยงคืนวันนี้ พลเอกประยุทธ์ เหมือนนั่งบนเตาอั้งโล่ ความร้อนจะเกิดขึ้นทุกขณะและจะลามแผดเผาไปถึงที่สุด ดูว่าจะอยู่ได้สักกี่วัน
………หลังจากนี้ เชื่อว่าประชาชนจะเริ่มมากขึ้นตามลำดับ หลังจากเที่ยงคืนวันนี้ และเห็นได้ว่า มีการชุมนุมหลายแห่งทั่วกรุงเทพฯ เพราะความไม่สำนึกของพลเอกประยุทธ์ จะนำพาประเทศวิกฤต
รับรองว่าศึกนี้ไม่ยืดเยื้อ ศึกนี้จะจบเร็วที่สุดเป็นประวัติศาสตร์การเมืองประเทศไทย
…..แม้ว่า พลเอกประยุทธ์ จะอยู่ แต่ทางกฎหมายไปแล้ว เหมือนคนที่ตายแล้ว แต่เข้าใจว่ายังมีชีวิต อยู่ฉันใด ก็ฉันนั้น”
……………………….
นี่….
เหล่านี้ ผมเก็บบรรยากาศขบวนการ “ล้มตู่-ชูโจร” มาให้ดูปลงสังเวชกัน การเกิดเป็นมนุษย์นั้น ว่ายากอยู่แล้ว แต่การเป็นมนุษย์แล้ว รู้จักแยกแยะ “ผิดชอบ-ชั่วดี” ยิ่งยากกว่า!
จากภาพรวม
จะเห็นชัดเจนอย่างหนึ่งว่า พวกนี้ใช้ความรู้สึกนึกคิดด้วย “เกลียด-ชอบ-ชัง” ในการแสดงออก
ไม่ใช้สติ-ปัญญาไตร่ตรองบนหลักของเหตุและผล ทั้งไม่เคารพในกฎระเบียบ-กติกาสังคมเลย
เรื่อง ๘ ปี หรือยังไม่ ๘ ปี ของนายกฯ ความถูกต้อง-ชัดเจน อยูที่ตัวบทกฎหมายโดยตรง
ดังนั้น เมื่อฝ่ายค้านยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยข้อกฎหมายแล้ว
อันวิญญูชนหรือปัญญาชนทั้งหลาย…..
ถ้าไม่ใช่ “สถุลชน” ละก็
ไม่ต้องลุกลี้-ลุกลน นำมวลชนออกมาสร้างกระแสชี้นำถึงขั้นว่า
ประยุทธ์เป็นคนเลวบ้าง
๒ ยามเป๊ง ถ้าไม่ออกเป็นนายกฯ เถื่อนบ้าง
บีบศาลกลายๆ รับคำร้องแล้ว ต้องสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่บ้าง
ให้ฝ่ายค้านไม่ร่วมประชุมสภา ลาออกให้หมดบ้าง
และที่อยากให้สังเกต……
แรกๆ จะยกรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๘ วรรคสี่ “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้” มาเป็นข้อกฎหมายยืนยัน
ว่า ๒๔ สิงหา ๖๕ ประยุุทธ์ครบ ๘ ปีแล้ว ต้องออกไป!
ต่อๆ มา ผู้รู้กฎหมายออกมาชี้บอกว่า….
กฎหมายนั้่น จะหยิบเฉพาะมาตรา เฉพาะวรรค เฉพาะตอนมาใช้เดี่ยวๆ ไม่ได้
ต้องดูทุกวรรค-ทุกตอน และทุกมาตราที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยง ว่าผู้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นตามรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ฉบับไหน มาตราไหน และมีความว่าอย่างไร
ใช่ว่า ที่ตัวเองจะได้ประโยชน์ ก็ไปลากรัฐธรรมนูญ “ข้ามภพ-ข้ามชาติ” มารองรับ-เชื่อมโยงในทาง “ตีความเพื่อตน” มาอ้างเป็นทางที่ใช่ อย่างที่ทำกันอยู่
แล้วก็ตีเกราะ-เคาะปี๊บ สร้างกระแสนำ ๘ ปีแล้ว..๘ ปีแล้ว ต้องไป ให้ชาวบ้านหลงเชื่อ
เพื่อว่า ถ้าศาลมีคำวินิจฉัยออกมาผิดจากกระแสชี้นำ ก็จะได้ตะโกน “ยุติไม่เป็นธรรม” แล้วปลุกระดมโหมกระพือ ให้มวลชนลงถนน
เมื่อ ผู้รู้นำความจริงทางกฎหมายมาอธิบายความให้ประชาชนเข้าใจ ประชาชนก็ตาสว่าง
ว่า…อ้อ…เรื่อง ๘ ปีนายกฯ เป็นอย่างนี้เอง ไม่ใช่อย่างที่ฝ่ายมุุ่ง “ล้มตู่-ชูโจร” โพนทะนา!
ดังนั้น ตอนนี้ จึงเห็นว่า ทั้่งปัญญาชน สถุลชน เลี่ยงที่จะอ้างตัวแม่บทกฎหมายในเรื่อง ๘ ปีแล้ว
หันมายกเรื่องสปิริต เรื่องจิตสำนึก เรื่องติดยึดตำแหน่ง เรื่องอยู่นานคนเบื่อ เรื่องไม่มีผลงาน
กระทั่งกล่าวหาซึ่งๆ หน้าเยี่ยงสถุลชนสยาม ว่า
“ประยุทธ์เป็นคนเลว…ประยุทธ์เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์” ถึงขนาดนั้น!
ชลน่าน “หัวหน้าเพื่อไทย” ยื่นศาลฯ ตีความผ่านประธานรัฐสภาเองแท้ๆ
รู้อยู่แก่ใจ ว่าตะแบงกฎหมายเรื่อง ๘ ปีนายกฯ ลงท้าย คำวินิจฉัยจะออกมาแบบไหน ก็พอคาดหมายได้
จึงสร้างกระแสนำสำรองทางปลุกระดมไปว่า
“ท่านควรเป็นคนตัดสินใจเอง
ไม่ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือประชาชนเป็นผู้ตัดสิน …ฯลฯ…..”
เป็นงั้นไป!
เล่นบท “หมาป่ากับลูกแกะ” ไปเรื่อย ในเมื่อบอก “ไม่ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน นายกฯ ควรตัดสินใจเอง”
แล้วเสือกไปยื่นให้ศาลฯ ท่านตีความทำไม…หือ?
ที่เติมเชื้่อไว้ว่า “หรือประชาชนเป็นผู้ตัดสิน” นั้่น
อ้าปากก็เห็นทะลุถึงดาก มันปูทางปลุกระดมโดยแท้
คือถ้าศาลฯ ตัดสินไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ก็จะใช้มวลชนลงถนนเป็น “ศาลเตี้ย” เอาประยุทธ์ลงจากเก้าอี้นายกฯ ให้ได้
ให้เกิดจลาจลเมือง……
เหมือนปี ๕๒-๕๓ ล้มเอเปก ในเดือนพฤศจิกาเป็นผลพลอยได้ ให้สมใจนายใหญ่ไปด้วยซะเลย
อย่างนั้นใช่มั้ย?
ถ้าไม่ใช่ งั้นประโยคที่ชลน่านพูด
“ท่านควรเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือประชาชนเป็นผู้ตัดสิน …” นั้น
หมายความว่าไง?
เอาละ ถกกะปัญญาชนปนปัญญาสถุลพอหอมปาก-หอมคอ ที่คุยอยู่ตอนนี้ ยังไม่รู้เลยว่า ตอนตื่นเช้า ตื่นอยู่ภพไหน?
ถ้ายังได้เจอกัน ก็หมายความว่า ๒ ยามที่ผ่านมา “โลกไม่แตก”
“มีแต่หมาหอน”!
คนปลายซอย