แก๊งฝ่ายค้านป่วนสภาแต่งดำชู 8 นิ้ว ด้าน “ชลน่าน” ตามบี้ประยุทธ์ลาออกเปิดทางรัฐสภาเลือกนายกฯ คนใหม่ แซะความเหมาะสมย้ายนั่งเก้าอี้กลาโหม ลับมีดทันควันรอตรวจสอบนายกฯ รักษาการแล้ว ขณะที่ “ก้าวไกล” ซัด “บิ๊กป้อม” รับไม้ต่อเหมือนพายเรือในอ่าง เรียกร้องศาลรัฐธรรมนูญเร่งวินิจฉัยเร็วกว่า 1 เดือน หวังสุญญากาศทางการเมืองสั้นลง ขณะที่ม็อบรอบทิศขีดเส้นไล่พี่น้อง 3 ป.
เมื่อวันพุธ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม พบว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลส่วนใหญ่ได้แต่งกายชุดดำ อาทิ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย, นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย, นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย, นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด พรรคก้าวไกล, นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อไว้อาลัยไว้ทุกข์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เนื่องจากมองว่าเป็นนายกฯเถื่อน เพราะอยู่ในวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีแล้ว
จากนั้นเวลาประมาณ 13.00 น. ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านที่แต่งชุดดำ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมกันชูมือ 8 นิ้ว แสดงสัญลักษณ์ไว้อาลัยให้กับนายกฯ 8 ปี
หลังจากนั้นในเวลา 14.55 น. พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกฯ ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านและประชาชนขอชื่นชมในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เราเห็นว่าตำแหน่งนายกฯ มีความสำคัญต่อการบริหารบ้านเมือง ฉะนั้นการทำหน้าที่ระหว่างอยู่ในข้อสงสัยก็ควรต้องหยุด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
ฝ่ายค้านตามบี้ลาออก
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ศาลรับในสิ่งที่มีข้อสงสัยว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์ปฏิบัติหน้าที่จะเกิดความเสียหาย เรายืนยันในเจตนารมณ์เรื่องการพ้นจากตำแหน่งนายกฯ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เราคิดว่าสถานภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าพ้นจากการเป็นนายกฯ ไปแล้ว ส่งผลถึงความเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะพ้นไปด้วย แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏคือศาลสั่งพล.อ.ประยุทธ์ยุติการปฏิบัติหน้าที่ แต่ความเป็น ครม. และความเป็นนายกฯ ยังอยู่
“แม้เราจะไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ แต่ในเมื่อข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ เพื่อที่ทุกอย่างจะจบไปด้วยดี ช่วงที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็จะมีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แต่สิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นตรงกันว่าจะเป็นทางออกประเทศ คือ พล.อ.ประยุทธ์ควรประกาศลาออก เพื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหา และเลือกนายกฯ ได้โดยเร็ว ซึ่งเชื่อว่ารัฐสภาพร้อมทำหน้าที่ ถ้าท่านลาออกกระบวนการเลือกนายกฯ จะเร็วขึ้น เราจะได้นายกฯคนใหม่ และจะช่วยลดภาระหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเกิดความสวยงาม และเชื่อว่าประชาชนจะชื่นชอบแนวทางนี้” นพ.ชลน่านกล่าว
ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวด้วยว่า ช่วงที่มีนายกฯ รักษาการ ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายกฯรักษาการให้ถึงที่สุด ว่าสิ่งที่ทำชอบธรรมหรือไม่ ทั้งเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย การอนุมัติงบที่ไม่เหมาะสม เราจะตรวจสอบอย่างเข้มข้น ส่วนการแสดงออกในช่วงที่ยังไม่มีคำวินิจฉัย เราจะแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไปเรื่อยๆ เช่นวันนี้ที่เราแต่งกายชุดดำเพื่อไว้อาลัยให้คนที่ฝ่าฝืนความรู้สึกประชาชน เราจะเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ และนายกฯ รักษาการ แต่เราจะไม่กระทำการในลักษณะละเมิดอำนาจศาล ซึ่งเราจะทำอยู่ในกรอบ
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็น รมว.กลาโหม คิดเห็นอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นไปตามกฎหมาย แต่มีความชอบธรรม ความสง่างาม และเหมาะสมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ควรต้องพิจารณา และควรแสดงออกซึ่งความรับผิดชอบ เพราะตำแหน่งยังติดตัวท่าน เมื่อท่านไปนั่งประชุม ครม.คนอื่นๆ ก็ยังเรียกว่านายกฯ
“พิธา”ขอศาล1เดือนตัดสิน
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว ว่า ส่วนตัวกังวลเรื่องสุญญากาศในการบริหารประเทศ และภาวะการเป็นผู้นำที่เข้มแข็งของนายกฯ รักษาการ เพราะประชาชนกำลังเดือดร้อนจากหลายปัญหา รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศต้องการนายกฯ ที่มีความฉับไวกระฉับกระเฉง แต่การที่เป็นเช่นนี้เหมือนพายเรือในอ่างของระบอบประยุทธ์ ซึ่งไม่ตอบโจทย์ประเทศ
“ดังนั้น พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรวดเร็ว ไม่ประวิงเวลา เพราะกระบวนการวินิจฉัยไม่มีอะไรซับซ้อน น่าจะตัดสินได้เร็วกว่า 1 เดือน เช่นเดียวกับกติกาการเลือกตั้งที่ต้องไม่ประวิงเวลา เพื่อที่สุญญากาศทางการเมืองจะได้สั้นลง และเปิดทางให้ ส.ส.เลือกนายกฯ ตามบัญชีรายชื่อ ถือเป็นทางออกของประเทศ หรือจะคืนอำนาจประชาชนผ่านการยุบสภาก็เป็นไปได้ หากกฎหมายทันห้วงเวลา ซึ่งจะช่วยพาประเทศพ้นวิกฤต” นายพิธา ระบุ
เมื่อถามว่า จากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ได้หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า คิดว่าไม่ได้ เพราะจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็เหมือนพายเรือในอ่าง เราต้องกลับมามีนายกฯ ที่ยึดโยงประชาชนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนไม่คิดว่า พล.อ.ประวิตรจะสามารถทำหน้าที่ได้ดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เพราะทั้ง 2 คนมีบทบาทสำคัญในการทำให้ประเทศเป็นเช่นนี้ ดังนั้นประเทศไทยไม่ควรมีตัวเลือกแค่ พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตร ใครดีกว่ากัน ประเทศเราไม่น่าจะหมดหวังเช่นนั้น สิ่งที่ตนเองคิดว่าต้องทำต่อไป ในระหว่างนี้ แน่นอนว่าเป็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่ ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรียังคงดำเนินการต่อ ไม่ได้นำไปสู่การเลือกตั้ง
“ผมคิดว่าสิ่งที่จะต้องช่วยกันส่งเสียงคือ การส่งเสียงว่าศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมีคำวินิจฉัย ที่เด็ดขาดสุดท้ายออกมา ซึ่งหากคำวินิจฉัยนั้นออกมา ในลักษณะที่พล.อ.ประยุทธ์อยู่ครบ 8 ปีแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการที่ต้องมีการเลือกนายกฯ คนใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากเราเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สิ่งที่เราต้องดำเนินการต่อไปคือต้องฝากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะต้องมีการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การคืนอำนาจให้ประชาชนและมีการเลือกตั้ง ไม่ใช่ว่ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะอยู่ครบวาระ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่สังคมไทยต้องการ” นายรังสิมันต์ระบุ
ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เพราะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง และมีภารกิจที่สัญญากับประชาชนไว้เยอะ ขณะนี้สิ่งที่ทำอยู่ก็ดี แต่ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกเยอะ คงต้องปฏิเสธตำแหน่งนายกรัฐมนตรีออกไป เพื่อทำหน้าที่ผู้ว่าราชการ กทม.ให้ดีที่สุด
เมื่อถามถึงการชุมนุมที่ลานคนเมือง เสาชิงช้า เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายชัชชาติกล่าวว่า เมื่อเช้าไปดูลานคนเมืองก็เรียบร้อยดี ทางผู้ชุมนุมก็ยุติตอนตี 3 ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ ไม่ก่อปัญหาอะไร
ม็อบขีดเส้นไล่ 3 ป.
วันเดียวกัน องค์กรผู้แทนนักศึกษา 14 องค์กร ออกแถลงการณ์ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตําแหน่งนายกรัฐมนตรี ระบุใจความว่า นับแต่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ และตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญอันเป็น กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้
“ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ ทําให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จักต้องสิ้นสภาพความเป็น นายกรัฐมนตรีภายในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 จักดื้อด้านเป็นนายกเถื่อนต่อไปมิได้ จะยื้ออํานาจที่ขาด ความชอบธรรมตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าดํารงตําแหน่งเพื่อบรรลุผลประโยชน์ใดๆ อีกต่อไปไม่ได้ ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าอย่างไร จักเกิดอภินิหารทางกฎหมายอีกหรือไม่ จะเกิดสภาวะสุญญากาศทางการเมืองอย่างไร พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องคืนอธิปไตยให้กับประชาชนโดยทันที โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น” แถลงการณ์ ระบุ
ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มนิสิตจุฬาฯ ในนามคณะจุฬาฯ จำนวน 15 คน นำโดยนายสิรภพ อัตโตหิ นายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ น.ส.พลอยวรินทร์ ชิวารักษ์ น้องสาวของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำราษฎร ได้มารวมตัวที่บริเวณหน้าคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “พอกันทีประยุทธ์ จันทร์โอชา” ด้วยการเดินขบวนภายในพื้นที่จุฬาลงกรณ์ฯ อาทิ คณะเศรษฐศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีการถือป้ายข้อความ อาทิ “นายกเถื่อน ออกไป”, “ให้มันจบที่ 8 ปี” และ “8 ปี ที่แปดเปื้อน”
พร้อมกับได้ทำแบบสอบถามความคิดเห็นในหัวข้อ “8 ปี พอแล้วหรือยัง?” ซึ่งมีนิสิตจุฬาฯ ที่สนใจกิจกรรมดังกล่าว ร่วมลงคะแนนติดสติกเกอร์ในฝั่ง “พอแล้ว” เพียงฝั่งเดียวประมาณ 40 ดวงจากนั้น เวลา 13.30 น. กลุ่มคณะจุฬาฯ ยุติการทำกิจกรรม และมวลชนนิสิตทยอยเดินทางเข้าห้องเรียนต่อไป
ส่วนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กลุ่มราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ และมวลชนอิสระ นัดหมายบุกทำเนียบรัฐบาล “ไล่นายกเถื่อน” จบแล้ว 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คืนประเทศไทยให้กับประชาชน โดยนัดรวมตัวกันนั้น ในเวลาเวลา 16.00 น. เริ่มคลื่อนขบวนไปสมทบทำเนียบฯ โดยได้มีการประกาศด้วยว่า ที่สะพานชมัยมรุเชฐ มีเจ้าหน้าที่ คฝ.มากมายแล้วในขณะนี้
บรรยากาศบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ได้มีการปิดเส้นทางการจราจรเพิ่ม ช่วงถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกมิสกวันจนมาถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ และปิดถนนบริเวณแยกเทวกรรม โดยมีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด กั้นด้วยแผงรั้วเหล็ก และลวดหนามหีบ รวมทั้งมีตู้คอนเทนเนอร์กั้นไว้บริเวณจุดสำคัญ หลังกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนไหวหลายจุดในช่วงเย็น และมีกลุ่มราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ
นำโดยนายวรเวช เปรมกมล ที่มาเคลื่อนขบวนมาจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อมาสมทบกับกลุ่มทะลุคุก 100% กลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร นำโดยนายโชคดี ร่มพฤกษ์ (อาเล็ก) ศิลปินนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย จัดกิจกรรม “เดินไล่ พล.อ.ประยุทธ์” โดยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง ที่ปักหลักพักค้างแรมตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยมีการจัดกิจกรรมขับร้องเพลง เพื่อความผ่อนคลาย และสลับการปราศรัยย่อย ซึ่งแม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีมติรับคำร้องของฝ่ายค้าน และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีทำวินิจฉัย แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังยืนยันเคลื่อนไหวเรียกร้องไม่เอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่หน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี รวมทั้งไม่เอา 3 ป. และต้องออกไป.