วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2025
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • แผนผังเว็บไซท์
  • Login
น่าน
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
น่าน
No Result
View All Result
Home ข่าว

“เที่ยวป่า” New Normal ลดขยะ รักษาสิ่งแวดล้อม

น่าน by น่าน
5 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 2min read
156
0
100
SHARES
199
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

This image is not belong to us

ขยะเป็นปัญหาโลกแตก แต่ละปีมีแต่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะขยะพลาสติก ในประเทศไทยขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นร้อยละ 11-12 ในแต่ละปี เมื่อปี 2563 มีปริมาณประมาณ 3.2 ล้านตัน

This image is not belong to us

การเดินทางของขยะเป็นไปอย่างเสรี ไม่ต้องพึ่งพาพาสปอร์ตหรือวีซ่า ทิ้งบนภูเขา ถ้าไม่มีใครเก็บ สักวันลมก็พัดพามันไปลงทะเล การกระจายของขยะพลาสติกทั้งบนบกและทะเลส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า หลายปีที่ผ่านมา เราเห็นภาพสัตว์กับขยะพลาสติกในรูปแบบต่างๆในสังคมออนไลน์ แทบทุกภาพสื่อสารความทรมานที่เป็นผลจากความมักง่ายของคนเรา

ปี 2562 มีภาพข่าวที่สะเทือนใจอย่างแรง คือ ภาพซากกวางป่าในอุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน เมื่อทีมสัตวแพทย์ป่าผ่าอวัยวะก็พบขยะพลาสติกอัดแน่นอยู่ในกระเพาะอาหารถึง 7 กิโลกรัม ย้อนหลังหนึ่งปีก่อนข่าวนี้ก็มีภาพชวนอึ้ง เมื่อนักท่องเที่ยวรายหนึ่งโพสต์ภาพ “อึ” ช้าง บนถนนสายหนึ่งที่ตัดผ่าน “มรดกโลก” อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอึที่เต็มไปด้วยมวลขยะพลาสติกจำพวกห่อขนมกรุบกรอบ

นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เคยเล่าว่า ขยะกับสัตว์ไม่ใช่สิ่งที่ควรใกล้ชิดกัน แต่มนุษย์กลับทำให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นโดยการให้อาหารสัตว์ เหตุเพราะความน่ารักน่าเอ็นดู สงสาร และอยากถ่ายรูปเซลฟี่ การกระทำนี้ส่งผลให้สัตว์เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการหาอาหาร สัตว์เรียนรู้การรื้อถังขยะและคิดว่าขยะของมนุษย์เป็นของกินได้ สัตว์ที่มีความคุ้นเคยกับคนจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากขยะมากที่สุด เช่น ลิง เก้ง กวาง ช้าง นก เม่น อาหารส่วนใหญ่จะอยู่ในถุงพลาสติก หรืออะลูมิเนียม เวลาคนขยับถุงพลาสติกจะมีเสียงก๊อบแก๊บ เรียกร้องสัตว์ให้เข้ามาหา สัตว์ที่อยู่ใกล้คนมากๆ รู้ว่าในถุงพลาสติกมีของที่กินได้ แต่ที่ไม่รู้คือ พลาสติกกินไม่ได้ ก็กลืนเข้าไปทั้งถุง

This image is not belong to us

ขยะพลาสติกที่นักท่องเที่ยวนำขึ้นไปเที่ยวป่าในอุทยานแห่งชาติ นอกจากจะสร้างภาระให้กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องแบกลงมาทิ้งด้านล่าง ยังเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าตัวเล็กตัวใหญ่มานานแล้ว ขยะพลาสติกที่พบในกระเพาะกวางป่าไม่ได้มีแค่ถุงหรือซองใส่อาหาร แต่ยังมีถุงมือยาง ผ้าเช็ดมือ (ทิชชูเปียก) กางเกงในผู้ชาย จนถึงเชือกฟาง

และถ้าเราไม่ลืม นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สร้างจุดเปลี่ยนเรื่องการรณรงค์เกี่ยวกับการจัดการขยะพลาสติก เมื่อปี 2561 วาฬนำร่องครีบสั้น ลอยเข้ามานอนอ่อนแรงบริเวณหน้าหาดใน อ.จะนะ จ.สงขลา ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง จ.สงขลา พยายามช่วยชีวิต แต่วาฬเกิดอาการเกร็งตัว จากนั้นก็สำรอกพลาสติกออกมา 4 ชิ้น จนเกิดอาการช็อกและเสียชีวิต เมื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุก็พบซากถุงพลาสติกในท้องวาฬถึง 85 ชิ้น น้ำหนักรวมกว่า 8 กิโลกรัม อันเป็นเหตุทำให้วาฬชะตาขาดไม่สามารถย่อยอาหารได้เลย

การโพสต์เรื่องราวเหล่านี้ในโซเชียลมีเดีย กระตุ้นให้เกิดธรรมชาติสำนึกอย่างกว้างขวาง สำคัญที่สุดคือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขยับตัวแบบจริงจัง หลังจากใช้วิธีขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยวเป็นครั้งคราว

This image is not belong to us

ตั้งแต่ปลายปี 2562 กรมอุทยานฯกำหนดมาตรการการเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ได้แก่ ห้ามให้อาหารสัตว์ ห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมเข้าในเขตอุทยาน ห้ามเก็บพันธุ์ไม้/ดอกไม้ ห้ามขีดเขียนในอุทยานแห่งชาติ ห้ามล่าสัตว์ป่า ห้ามก่อกองไฟ ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าภายในอุทยานแห่งชาติ ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ต่างถิ่นเข้า ห้ามพกพาอาวุธเข้าอุทยานแห่งชาติ ห้ามเดินออกนอกเส้นทาง และห้ามทิ้งขยะ

เฉพาะเรื่องขยะพลาสติก มีเจาะจงลงลึกไปด้วยว่า ห้ามนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เข้ามาในพื้นที่อุทยานฯ และนักท่องเที่ยวทุกคณะต้องนำถุงขยะเข้ามาเอง แล้วเอาติดตัวกลับออกไปด้วย

แต่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตื่นตัวก่อนต้นสังกัดและถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแห่งแรกของประเทศ หลังจากพบปัญหาว่านักท่องเที่ยวที่ขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ทิ้ง “ทิชชูเปียก” ตามรายทางเป็นจำนวนมาก

หากสัตว์ป่ากินเข้าไปอาจเป็นปัญหาถึงตายได้ ต้นปี 2561 จึงมีการนำร่องแจกชุดขับถ่ายฉุกเฉิน และจัดห้องสุขาชั่วคราวให้แก่นักท่องเที่ยวที่ขึ้นดอย

เจ้าหน้าที่จะแจกเป้สะพายกันน้ำสีดำให้นักท่องเที่ยวคนละใบ ภายในเป้มีชุดขับถ่ายฉุกเฉิน กระดาษทิชชู 2 แพ็ก ถุงเจล 3 ใบ และถุงดำที่ย่อยสลายได้ 4 ใบ พร้อมสาธิตวิธีการใช้คือ ถุงเจลสำหรับใช้ปัสสาวะ เมื่อใช้แล้วปิดให้มิดชิด นำเก็บใส่เป้แล้วลงมาทิ้งในจุดที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ด้านล่าง

ส่วนถุงดำใช้สำหรับถ่ายหนัก เอาไว้ใช้ในห้องสุขาชั่วคราว ซึ่งเป็นเก้าอี้พลาสติกเจาะรูตรงกลางไว้สำหรับสวมถุงดำ เสร็จภารกิจแล้วก็นำถุงดำไปทิ้งในหลุมที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ เพื่อฝังกลบย่อยสลายตามธรรมชาติ หลังจากทดลองใช้ชุดขับถ่ายฉุกเฉินดังกล่าว พบว่าปริมาณขยะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

This image is not belong to us

ล่าสุด สาวกแบกเป้ที่เป็นสายปิ้งย่างต้องยุติการกินหมูกระทะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อีกด้วย เพราะทางอุทยานฯประกาศยกเลิกการให้บริการหมูกระทะของร้านค้าสวัสดิการเขาใหญ่ ซึ่งแต่เดิมมีจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวชุดละ 300 บาท เพื่อป้องกันกลิ่นและควันที่รบกวนนักท่องเที่ยวรายอื่นๆ นอกจากนี้ กลิ่นควันการปิ้งย่างยังดึงดูดสัตว์ป่าให้เข้ามาในลานกางเต็นท์ ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งตัวสัตว์เองเพราะพบการทิ้งเศษถ่านและเศษอาหารจากเมนูหมูกระทะ พร้อมทั้งขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่จะทำอาหารเอง ไม่ปรุงเมนูดังกล่าวนี้ด้วย

ว่าที่จริง หัวใจหลักของการไปเที่ยวธรรมชาติก็คือ ผ่อนคลายให้อยู่เย็นกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติรอบตัว งดการดื่มการกินที่ดุเดือดลงบ้าง จึงจะสัมผัสได้ถึงความหมายของป่าที่เติมเต็มในใจอย่างแท้จริง.

Tags: newsข่าวจังหวัดน่าน
Previous Post

ตอบคำถาม “ผมผิดอะไร”

Next Post

เกษตรกรชาวอุบลรัตน์มีความหวังจะได้ปลูกกัญชา หลังวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นฯ ลงพื้นที่ให้ข้อมูล

น่าน

น่าน

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

Next Post
564000001741401.jpg

เกษตรกรชาวอุบลรัตน์มีความหวังจะได้ปลูกกัญชา หลังวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นฯ ลงพื้นที่ให้ข้อมูล

บทความ แนะนำ

เปิดคลังภูมิปัญญาสล่า“พุทธศิลป์วัดแสงดาว”ศูนย์เรียนรู้เชิงช่างพื้นถิ่นภูเพียงสู่พื้นที่สร้างสรรค์น่าน

“หมอชลน่าน”ยันร่าง MOU พรรคก้าวไกล ไม่มีเงื่อนไข ม.112-“เพื่อไทย”ไม่เอานิรโทษกรรม

คนอุบลฯ โวยมีชื่อเลือกตั้งนอกเขตไกลจากอีสานโผล่ทั้งภาคเหนือและภาคใต้

‘น่านบันดาลใจ’จริง!อพท.นำเครือข่ายยกระดับหัตถกรรม-ศิลปะพื้นบ้านน่าน ปั้นเมืองสร้างสรรค์ชงยูเนสโกปีนี้

“น่าน” ผนึกเครือข่าย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “กำแพงเมืองเก่า-คูเมืองน่าน”ต่อเนื่อง เชื่อมประวัติศาสตร์กับวิถีคนน่าน บันดาลไอเดียหนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวยั่งยืน

‘เพื่อไทย”จ่อเปิดเวทีใหญ่บางระกำซ้ำ 30 เมษาฯนี้ ‘สมศักดิ์’ลั่น พท.แลนด์สไลด์ สร้างงานทันควัน-เงินดิจิทัลแก้เศรษฐกิจฉับพลัน

“ธรรมนัส” ลั่น! 8 จว.ภาคเหนือ “พลังประชารัฐ” ได้เก้าอี้ ส.ส.ทุกจังหวัดแน่

“เศรษฐา” ควง “โอ๊ค” ลงพื้นที่แม่กลอง ขอพรหลวงบ้านแหลม พร้อมช่วยลูกพรรคหาเสียง

“ชัยเกษม”แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย วูบ ต้องนำส่ง รพ.ระหว่างหาเสียงเมืองน่าน เตรียมส่งรักษา กทม.พรุ่งนี้

สุดเศร้า! อดีต ส.อบต.ร่วมทีมอาสาดับไฟป่า เจอลมแรงหัวไฟเปลี่ยนทิศโดนคลอกดับ

เชียงใหม่เผชิญวิกฤตฝุ่นควันต่อเนื่อง-ค่ามลพิษอากาศพุ่งยึดแน่นอันดับ 1 เมืองหลักอากาศเลวร้ายที่สุดโลก

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และมูลนิธิพุทธรักษา มอบวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือป้องกัน-ดับไฟป่า

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนส่งทางรถไฟ รถไฟฟ้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตเส้นไหม การผลิตและบรรจุยา การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การหีบฝ้าย ปั่นนุ่น การเคลือบ ชุบ อาบขัดโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ น่าน บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.น่าน เขต 1 สพป.น่าน เขต 2 สพม.เขต 37 สมาคม หน่วยงานราชการ อบจ. อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา น่าน



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!