วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2025
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • แผนผังเว็บไซท์
  • Login
น่าน
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
น่าน
No Result
View All Result
Home ข่าว

เครือข่าย SME @น่าน: ร้อยต่อกันด้วยใจ 14 Mar 2021

น่าน by น่าน
5 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 1min read
157
0
100
SHARES
200
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend


ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่ารัฐบาลทุกยุคทุกสมัยได้ให้ความสำคัญกับ SME มาตลอด มีหลายหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจและกิจกรรมสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แม้แต่การมีพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมขึ้นมาตั้งแต่ปี 2543 รวมถึงการจัดตั้งหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบการพัฒนา SME โดยตรง คือ

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ในปีเดียวกัน และวันนี้เรามีหน่วยงานกว่า 27 หน่วยงานทั้งของรัฐและวิสาหกิจที่ไม่นับรวมภาคเอกชนที่ทำงานสนับสนุน SME เฉพาะในส่วนของภาครัฐงบประมาณรวม ๆ กันปีละหลายแสนล้านบาท ทั้งเป็นงบบูรณาการและงบประจำในภารกิจหลักของหน่วยงานต่าง ๆ แต่ SME ของเราก็ยังมีปัญหาสารพัด

ทุกวันนี้ เสียงบ่นถึงความไม่มีประสิทธิภาพในการสนับสนุน มาตรการที่เกาไม่ถูกที่คันยังคงดังขึ้นและดังขึ้นเรื่อย ๆ ที่สำคัญหลายหน่วยงานต่างคิดต่างทำ ซึ่งหากมองในเชิงประสิทธิภาพของการทำงานแล้วจะพบว่าโดยมากจะทำงานซ้ำซ้อนกัน และหน่วยงานต่าง ๆ ชอบพูดว่า “ซ้ำเสริม ไม่ใช่ซ้ำซ้อน”

แต่ถ้าหากหน่วยงานจะมองแบบเปิดใจสักหน่อยจะพบว่างานที่ทำนั้น หลายงาน “ซ้ำซ้อน” และ “ไม่มีประสิทธิภาพ” ไม่คุ้มกับงบประมาณที่ลงไปและทำให้ไม่มีพลังในการสนับสนุน SME และยังสร้างความสับสนในบทบาทของตัวเองด้วย ความชำนาญในหน่วยงานไม่มีแต่คิดว่าทำได้ เพราะการจ้างคนอื่นมาทำแทนและทำได้ทุกอย่าง จนวันนี้คนในหน่วยงานพัฒนา SME เก่งเรื่องระเบียบว่าจ้างที่ปรึกษามากกว่าการให้คำแนะนำ SME

ผมมาที่ “น่าน” อีกครั้งเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ตามที่กรรมาธิการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง วุฒิสภา มอบหมายให้มาติดตามงานที่เคยให้ข้อเสนอแนะกับคณะรัฐมนตรีเรื่องการบรูณาการงานด้านการพัฒนาและสนับสนุน SME พร้อมกับทีมงานของ สสว. และ SME Bank ที่ลงพื้นที่สนับสนุนการต่อยอดในการสร้างเครือข่ายกลุ่มกาแฟของน่านกับวิสาหกิจกาแฟของวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นการช่วยขยายตลาดเมล็ดกาแฟให้กับเกษตรกรกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบต้นน้ำที่น่านเข้ากับกลุ่มผู้ผลิตกลางน้ำและตลาดต่างประเทศ



และปัจจุบันนี้ “วัชรี พรมทอง” หรือ “น้องแอ๋ว” เจ้าของแบรนด์ดัง “ภูค๊อฟฟี่” และ “ภูมิใจ๋ ค๊อฟฟี่” เล่าว่าให้ผมฟังว่า เธอและเพื่อนช่วยกันสร้างเครือข่ายกาแฟน่านขึ้นมา ตั้งแต่การตลาด การผลิต จนไปถึงต้นน้ำ ซึ่งวันนี้สามารถสานต่อลงไปถึงต้นน้ำผู้ปลูกกาแฟไปแล้วกว่า 1,400 ครอบครัว และมุ่งมั่นจะขยายให้มากได้ต่อไปอีกหากสามารถเชื่อมกับผู้แปรรูปและตลาดกาแฟสำเร็จรูปให้กว้างออกไปมากกว่าที่ตนเองและผองเพื่อนทำกันอยู่ที่จังหวัดน่าน

วัชรี พรมทอง

ทั้งหมดนี้คือแนวคิดของ “เกษตรกรอุตสาหกรรม” หรืออุตสาหกรรมที่ 6 ที่ภาคการเกษตร การผลิต การแปรรูป และการตลาดต้องเชื่อมโยงกัน ทั้งจากซ้ายไปขวา คือจากภาคการเกษตรไปการตลาด หรือจากการตลาดมายังภาคการเกษตร กล่าวคือ ข้อมูลวัตถุดิบที่ผลิตอยู่ การแปรรูปและตลาดจะต้องคิดค้นว่าสามารถนำไปตอบสนองความต้องการตลาดอย่างไร และจากขวามาซ้าย ก็คือ ข้อมูลความต้องการของตลาดจะต้องถูกส่งกลับมาที่การแปรรูปและการผลิตวัตถุดิบเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างไร

เรียกว่าผลิตตามที่ตลาดต้องการ หรือ Demand driven ดังนั้นแนวคิดนี้จะขาดความรู้ด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ ที่เรียกอุตสาหกรรมที่ 6 ก็เพราะว่า อุตสาหกรรมถูกแบ่งเป็น 3 ขั้น คือ เกษตรกรรมขั้นที่ 1 อุตสาหกรรมแปรรูปคือ อุตสาหกรรมขั้นที่ 2 และการตลาดเป็นอุตสาหกรรมขั้นที่ 3 ดังนั้น 1 x 2 x 3 = 6 หากขาดขั้นใดขั้นหนึ่ง ขั้นนั้นก็เป็น 0 ซึ่งหากขั้นใดเป็น 0 เมื่อคูณเข้าไปในสมการแล้ว ผลลัพธ์คือ 0 ดังนั้น ต้องมีทุกด้านและเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งและแน่นหนา ถ้าหากใครไปที่น่าน ลองไปถามน้องแอ๋วดูว่า เขาซื้อกาแฟจากเกษตรกรอย่างไร เขาเข้าไปทำความเข้าใจและช่วยเหลือกับเกษตรกรผู้ผลิตอย่างไร ก็อาจทำให้พอเข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้น

เรื่องแนวคิดของคลัสเตอร์เพื่อเชื่อมโยงกันตลอดห่วงโซ่มูลค่า ไม่ได้ง่ายแบบที่เห็นในหนังสือ ในโลกของความจริงแล้วมีกิจกรรมสนับสนุนหลายจิ๊กซอว์ที่ต้องเติมเต็ม ช่วยกันทำให้สิ่งที่ต้องทำ แต่ทุกคนไม่ต้องทำ เรียกว่าการแบ่งงานกันทำหรือแบ่งงานตามความชำนาญ ซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานในภาพรวมและกับทุกๆคนในห่วงโซ่

              ยกตัวอย่าง “จิ๊กซอว์” อันหนึ่งในกลุ่มคลัสเตอร์แปรรูปเกษตรและอาหารของจังหวัดน่านที่ปิดช่องว่างของการผลิตสินค้าของ SME ในกลุ่ม หลายคนมีการพัฒนาสินค้าได้ระดับหนึ่งแล้ว ต้องการสเกลอัพให้เป็นการทดสอบตลาดที่กว้างขึ้น การผลิตในปริมาณมากพอประมาณ การหาแหล่งว่าจ้างผลิตสินค้าเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น จะให้ลงทุนสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักรทันทีก็ยาก เพราะต้นทุนจม หากการตลาดไม่ดีก็พาลเจ๊งเอาง่าย ๆ และต้นทุนต่อหน่วยก็สูง

ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน แม่งานของคลัสเตอร์นี้ก็ต่อจิ๊กซอว์ให้มีโรงงานรับจ้างผลิตให้กับ SME ประเภทแปรรูปอาหารให้กับ SME ในเครือข่ายได้ คือโรงงานของบริษัท โกลเด้น พีค โฮมฟูด จำกัด ซึ่งบริหารโดย “น้องแอร์” ศรตา จันทร์หาญ อดีตแอร์โฮสเตส ผู้หอบความชอบและความฝันในเรื่องอาหารกลับมาบ้านเกิด และสร้างธุรกิจอาหารสำเร็จรูปที่ผลิตอาหารเหนือแบบรสชาติดั้งเดิมและอาหารสุขภาพจากพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่ รวมทั้งพริกแกงต่าง ๆ ภายใต้ชื่อ “ลูกจัน” เข้าใจว่า คุณแม่ของน้องแอร์ชื่อ “จัน” …. ง่าย ๆ ตรง ๆ กันอย่างนี้แหละครับ แต่อยากให้แนะนำ

              แต่ที่ผมสนใจมากถึงความสำคัญของบริษัทนี้ก็คือ การเป็นจิ๊กซอว์ที่สำคัญยิ่งของคลัสเตอร์เกษตรแปรรูปและอาหารของน่านในฐานะโซ่ข้อกลางของ Supply Chain การแปรรูปการเกษตรและอาหาร ทำให้เปิดโอกาส SME รายเล็ก ๆ ไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานในระยะเริ่มต้น ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้รายใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดได้ง่าย  ซึ่งผมก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมโรงงานแห่งนี้ซึ่งได้มาตรฐานทุกอย่างที่ธุรกิจแปรรูปอาหารจำเป็นต้องมี


และกำลังจะขยายกำลังการผลิตออกไปเพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบ SME ในเครือข่ายที่ต้องการว่าจ้างให้ที่แห่งนี้ผลิตสินค้าตนเองเพิ่มมากขึ้นในระยะแรกที่ทำการทดสอบตลาด และหากสินค้าตนเองสามารถทำตลาดได้ ยอดขายเพิ่ม จนคุ้มที่จะลงทุนสร้างโรงงานเอง ก็ค่อยขยับขยายภายหลัง ซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็น เช่น น้องการ์ตูนเจ้าของน้ำจิ้มข้าวมันไก่ชื่อดัง แบรนด์ “โกเต็ง” ของน่านที่ใครไม่เคยลอง … ต้องลองละครับ

              “Golden Peak Home Food Co. Ltd” แห่งนี้นอกจากจะมีสินค้าอาหารเหนือรสดั้งเดิมและน้ำผลไม้สุขภาพแบบที่หาไม่ได้ในตลาดมากนัก เช่น น้ำฟักทอง ฯลฯ การรับเป็นข้อต่อขั้นกลางในห่วงโซ่ของคลัสเตอร์แปรรูปคือบทบาทต่ออุตสาหกรรมในภาพรวมของน่านที่สำคัญยิ่งต่อสมาชิกจำนวนมากที่ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของตนเอง เพื่อทดสอบตลาดอยู่ ทำให้วันนี้ งานผลิตของบริษัทนี้กว่า 90% เป็นการผลิตให้กับ SME รายอื่น ๆ ซึ่งน้องแอร์ก็ยังคงไม่ลืมความฝันของเธอที่กำลังผลิตอาหารสุขภาพให้กับแฟนประจำของสินค้าเธอต่อไป วันนั้นผมเห็นแว่บ ๆ ว่ามีเครื่องดื่มปลีกล้วย ผสมขิงและอินทผาลัมผสมขิงด้วย ภายใต้ชื่อ “Full Ounce” น่าจะดีกับสุภาพสตรีนะครับ ก็ต้องให้กำลังใจและอุดหนุนกันละครับ

              ทุกกิจการสามารถเป็นตัวจุดประกายหรือเป็นตัวคูณของการพัฒนาพื้นที่ตามแนวคิดของเกษตรอุตสาหกรรมหรืออุตสาหกรรมที่ 6 ได้ ไม่ต้องใหญ่ ไม่ต้องแกรนด์ มหึมา อาจเป็นธุรกิจเล็ก ๆ โดดๆ อย่างร้านกาแฟที่ผมกับน้อง ๆ ไปแวะเยือน ชื่อน่ารัก “มานานะ คาเฟ่” พอเห็นบรรยากาศและวิวเงินล้านที่เป็นที่นาข้าวและแปลงผักที่เขียวสะอาดตาแล้วจิบการแฟดูวิวแบบพาโนรามาเลยครับ

วิวร้านมานามะ คาฟ่

              แต่ที่ผมฟังท่านนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรมที่ลงพื้นที่ด้วย ให้คำแนะนำน้องเหมียว หรือ บุษบา ปันเจริญ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่ดูแลร้านว่า ร้านควรคุยกับชุมชนที่เป็นเจ้าของแปลงนาและผักรอบ ๆ ร้าน ที่เป็นเจ้าของวิวของร้านตอนนี้ ให้ทำพื้นที่ให้สวยและปลูกพืชผักสะอาดที่นำมาเป็นวัตถุดิบอาหารในร้านและสามารถขายให้กับลูกค้าที่มาทานหรือส่งขายในเมือง โดยการบริหารจัดการที่เป็นระบบอุตสาหกรรมมากขึ้น

ผมยังนึกภาพไปไกลว่า มาทานอาหารรสเด็ดจากวัตถุดิบในพื้นที่วิวสวยเบื้องหน้าแล้ว ยังลงไปเดินในแปลงผักเพื่อเลือกซื้อผักต้นสวย ๆ ติดมือกลับบ้านอีกด้วย ซึ่งผมคิดเอาเองว่าน่าจะช่วยทั้งชุมชนและเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และช่วยร้านให้มีอัตลักษณ์ในเมนูและทำให้วิวที่สวยงาม มีเรื่องราวแล้ว ยังทานได้อีก เรียกว่า “วิวที่ทานได้” ผมว่าลูกค้าจะ “อิน” และรู้สึกถึงคุณค่ากับอาหารที่ออกมาวางเบื้องหน้าของเขามากกว่าเป็นเพียงแค่อาหาร และนี่คือ วิถีเกษตรอุตสาหกรรม ที่ทุกคนตลอดห่วงโซ่อุปทานมีส่วนสร้างคุณค่าครับ

              ผมฟังเขามาและเอามาเล่าต่อ ผ่านการกรองในความคิดของผมเพื่อมองภาพของการพัฒนา SME ให้ออกมาเป็นมาตรการนั้น จะเห็นว่าวันนี้ผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จ และยังมีแรงต่อสู้กับการผันเปลี่ยนที่รุนแรงและรวดเร็วของปัจจัยรอบด้าน ซึ่งแน่นอนนอนว่าคนตัวเล็กจะพกอาวุธและมีอุปกรณ์ครบด้านเป็นไปได้ยาก แต่การรวมกลุ่มเป็นคลัสเตอร์ ที่ต่างคนต่างช่วยกันทำในสิ่งที่ถนัด แต่ละคนเอาสิ่งที่ตนเองมีมาใช้ร่วมกัน เพื่อให้มีจิ๊กซอว์ครบในการทำธุรกิจ เช่นที่เครือข่ายอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรและอาหารของจังหวัดน่านทำในวันนี้ ทำให้เห็นภาพและประโยชน์ในระดับมหภาคของแนวคิดเกษตรอุตสาหกรรมได้ขัดเจนมากขึ้น

              วันนี้ที่ “น่าน” ผู้ประกอบสร้างเครือข่ายการพัฒนา SME ในบางกลุ่มได้เข็มแข็งมาก และที่ผมสัมผัสมาตลอดเวลาหลายปีนั้น พวกเขาคือคนรุ่นใหม่ที่สร้างฝันร่วมกัน โดยเอา “ใจ” มาเรียงร้อยต่อกัน เอา “สมอง” มาระดมกองรวมกันเพื่อเครือข่ายในการช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ตั้งแต่ “ต้นทาง” จนถึง “ปลายทาง” โดยมีความอยู่รอด เติบโต และความยั่งยืนของ SME ในท้องถิ่นเป็นเดิมพัน

              สำหรับส่วนราชการที่กำลังพัฒนา SME ในพื้นที่ซึ่งหลายหน่วยงานกำลังจะมีการสร้างเครือข่ายระหว่างกันเพื่อให้จิ๊กซอว์ของการพัฒนา SME ในจังหวัดมีครบและมีประสิทธิภาพ เหมือนกับที่ชาว SME ในจังหวัดน่านได้ทำให้เป็นตัวอย่างไว้แล้ว คราวนี้ต้องมาดูว่าหน่วยงานพัฒนาจะสร้างเครือข่ายระหว่างกันเองเพื่อสร้างระบบนิเวศน์ในการช่วยกันพัฒนา SME ในจังหวัดน่านให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้หรือไม่ ซึ่งตอนนี้เข้าใจว่าเริ่มคุยกันและวางแผนกันไปบ้างแล้วในบางหน่วยงาน …… อีกสองสามอาทิตย์ … ผมจะนำมาเล่าให้ฟังครับว่าพวกเขาสามารถทำได้เหมือนที่พวกเขาพร่ำสอนให้ชาว SME สร้างเครือข่ายกันได้หรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้อง :

  • ส่อง SME ในแผนปฎิรูป (ฉบับแก้ไข)
  • รู้จัก “ความเก่ง” ของตนเอง
  • ทำยังไงให้อุตสาหกรรมได้ “ไปต่อ” หลังโควิด
  • อุตสาหกรรมไทยเจออะไรในปี 2564
  • จากยอดดอย … สู่ “ดอยซิลเวอร์”
Tags: newsข่าวจังหวัดน่าน
Previous Post

ที่มาฉลองพระองค์’ราชินี’สุดงดงาม พระภูษา’ผ้าปักชาวเขาเผ่าม้ง’

Next Post

นิพิฏฐ์โพสต์ถาม’ส.ส.ขอเลือกนายกเอง’ ส.ว.ห้ามยุ่ง แก้ไขรธน.แค่นี้ประชาชนขอมากไปหรือ

น่าน

น่าน

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

Next Post
image_big_604adbf1c1959.jpg

นิพิฏฐ์โพสต์ถาม'ส.ส.ขอเลือกนายกเอง' ส.ว.ห้ามยุ่ง แก้ไขรธน.แค่นี้ประชาชนขอมากไปหรือ

บทความ แนะนำ

เปิดคลังภูมิปัญญาสล่า“พุทธศิลป์วัดแสงดาว”ศูนย์เรียนรู้เชิงช่างพื้นถิ่นภูเพียงสู่พื้นที่สร้างสรรค์น่าน

“หมอชลน่าน”ยันร่าง MOU พรรคก้าวไกล ไม่มีเงื่อนไข ม.112-“เพื่อไทย”ไม่เอานิรโทษกรรม

คนอุบลฯ โวยมีชื่อเลือกตั้งนอกเขตไกลจากอีสานโผล่ทั้งภาคเหนือและภาคใต้

‘น่านบันดาลใจ’จริง!อพท.นำเครือข่ายยกระดับหัตถกรรม-ศิลปะพื้นบ้านน่าน ปั้นเมืองสร้างสรรค์ชงยูเนสโกปีนี้

“น่าน” ผนึกเครือข่าย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “กำแพงเมืองเก่า-คูเมืองน่าน”ต่อเนื่อง เชื่อมประวัติศาสตร์กับวิถีคนน่าน บันดาลไอเดียหนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวยั่งยืน

‘เพื่อไทย”จ่อเปิดเวทีใหญ่บางระกำซ้ำ 30 เมษาฯนี้ ‘สมศักดิ์’ลั่น พท.แลนด์สไลด์ สร้างงานทันควัน-เงินดิจิทัลแก้เศรษฐกิจฉับพลัน

“ธรรมนัส” ลั่น! 8 จว.ภาคเหนือ “พลังประชารัฐ” ได้เก้าอี้ ส.ส.ทุกจังหวัดแน่

“เศรษฐา” ควง “โอ๊ค” ลงพื้นที่แม่กลอง ขอพรหลวงบ้านแหลม พร้อมช่วยลูกพรรคหาเสียง

“ชัยเกษม”แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย วูบ ต้องนำส่ง รพ.ระหว่างหาเสียงเมืองน่าน เตรียมส่งรักษา กทม.พรุ่งนี้

สุดเศร้า! อดีต ส.อบต.ร่วมทีมอาสาดับไฟป่า เจอลมแรงหัวไฟเปลี่ยนทิศโดนคลอกดับ

เชียงใหม่เผชิญวิกฤตฝุ่นควันต่อเนื่อง-ค่ามลพิษอากาศพุ่งยึดแน่นอันดับ 1 เมืองหลักอากาศเลวร้ายที่สุดโลก

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และมูลนิธิพุทธรักษา มอบวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือป้องกัน-ดับไฟป่า

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนส่งทางรถไฟ รถไฟฟ้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตเส้นไหม การผลิตและบรรจุยา การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การหีบฝ้าย ปั่นนุ่น การเคลือบ ชุบ อาบขัดโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ น่าน บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.น่าน เขต 1 สพป.น่าน เขต 2 สพม.เขต 37 สมาคม หน่วยงานราชการ อบจ. อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา น่าน



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!