วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2025
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • แผนผังเว็บไซท์
  • Login
น่าน
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
น่าน
No Result
View All Result
Home ข่าว

เกษตรฯ เผยสถานการณ์ผลิตไม้ผล ปี 2564 และแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ช่วง

น่าน by น่าน
5 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 1min read
158
0
100
SHARES
200
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

เกษตรฯ เผยสถานการณ์ผลิตไม้ผล ปี 2564 และแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ช่วง COVID-19

กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับ Fruit Board ประเมินสถานการณ์ผลิตไม้ผลปี 2564 และแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ช่วง COVID-19 ชี้ภาพรวมผลผลิตเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะทุเรียนเหตุเพราะสภาพอากาศเหมาะสม ส่งผลดีต่อเกษตรกร

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยผลถึงผลการประชุมคณะทำงานจัดทำข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนือ (ลิ้นจี่และลำไย) ครั้งที่ 1/2564 และผลการประชุมคณะทำงานจัดทำข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออก (ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง) ครั้งที่ 2/2564 เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ได้ร่วมกันวิเคราะห์ และจัดทำข้อมูลประมาณการผลผลิตไม้ผลที่กำลังจะให้ผลผลิตที่สามารถเก็บเกี่ยวได้เป็นส่วนมากตั้งแต่เดือนเมษายน – มิถุนายน 2564 ซึ่งขณะนี้เกษตรกรได้มีการเตรียมต้นและมีการบริหารจัดการสวนตามหลักวิชาการ เพื่อให้ต้นไม้ผลพร้อมเข้าสู่ระยะการออกดอก และเจริญพัฒนาต่อไปอย่างเต็มที่สำหรับการติดผลในฤดูกาลผลิตแต่ละภาค มีดังนี้

ภาคเหนือ คือ ลิ้นจี่และลำไยปีนี้ออกดอกมากขึ้น เนื่องจากต้นมีการพักตัวเพื่อสะสมอาหารได้มาก สาเหตุจากช่วงปลายปีอุณหภูมิได้ลดลงจนหนาวเย็นเกิดความเหมาะสมต่อการกระตุ้นการออกดอก คาดการณ์สถานการณ์การผลิตแต่ละชนิด ดังนี้ ลิ้นจี่จาก 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ และน่าน จะมีผลผลิตรวมกันทั้งสิ้น 30,716 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.39 จากปี 2563 ซึ่งมีผลผลิต 29,425 ตัน และลำไยจาก 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ น่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน และตาก จะมีผลผลิตในฤดูรวมกันทั้งสิ้น 692,386 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.67 จากปี 2563 ซึ่งมีผลผลิต 559,854 ตัน

ภาคตะวันออก คือ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง จาก 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ระยอง และจังหวัดตราด สภาพอากาศในช่วงปลายปีที่ผ่านมา อุณหภูมิลดลงมีความเหมาะสมต่อการเจริญพัฒนาของตาดอกในไม้ผลเขตร้อนชื้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ดีสำหรับเกษตรกรโดยเฉพาะอย่างยิ่งทุเรียนซึ่งเป็นสินค้า champion product สำคัญของภาคตะวันออก ในปีนี้ทุเรียนมีการออกดอกมากขึ้น และขณะนี้ออกดอกครบ 100% แล้ว มีแนวโน้มการให้ผลผลิตสูงขึ้น เนื่องจากพื้นที่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่มังคุด เงาะ และลองกองเพิ่งจะเริ่มทยอยการออกดอก อีกทั้งพื้นที่ปลูกและพื้นที่ให้ผลผลิตลดลง จึงมีแนวโน้มการให้ผลผลิตลดลง คาดการณ์สถานการณ์การผลิต ดังนี้ ทุเรียน จะมีผลผลิตรวมทั้งสิ้น 633,476 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.17 จากปีที่แล้วซึ่งมีผลผลิต 550,035 ตัน มังคุด จะมีผลผลิตรวมทั้งสิ้น 157,207 ตัน ลดลงร้อยละ 25.97 จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีผลผลิต 212,345 ตัน เงาะ จะมีผลผลิตรวมทั้งสิ้น 197,438 ตัน ลดลงร้อยละ 6.27 จากปี 2563 ซึ่งมีผลผลิต 210,637 ตัน และลองกอง คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตรวมกันทั้งสิ้น 19,617 ตัน ลดลงร้อยละ 12.75 จากปี 2563 ซึ่งมีผลผลิต 22,484 ตัน

ภาคใต้ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง จาก 14 จังหวัด ขณะนี้คณะทำงานจัดทำข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคใต้ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ กำหนดกรอบแนวทางการจัดทำข้อมูลประมาณการผลผลิต ตลอดจนทบทวนข้อมูลการผลิตของปีที่ผ่านมาเพื่อนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับการจัดทำข้อมูลประมาณการผลผลิตครั้งที่ 1/2561 ในช่วงเดือนมีนาคมต่อไป 

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID – 19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกในขณะนี้ ประกอบกับผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ครั้งที่ 1/2564 มีมติเห็นชอบแนวทางบริหารจัดการผลไม้ ปี 2564 – 2566 ซึ่งเป็นแนวทางบริหารจัดการผลไม้ในระยะปานกลาง (3 ปี) ที่เน้นความสอดคล้องตามยุคสมัยปัจจุบันซึ่งมีเทคโนโลยีและเครื่องมือสื่อสารที่อำนวยความสะดวกมากขึ้นในยุค 4.0 ตลอดจนให้เข้ากับสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 โดยเน้นช่องทางการซื้อขายออนไลน์ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกระจายได้สูง เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนวิถีการขายรูปแบบใหม่ ไม่ต้องอาศัยพ่อค้าคนกลาง โดยขอให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) ทุกจังหวัดส่งเสริมและสนับสนุนอำนวยความสะดวกเกษตรกรในพื้นที่ ให้สามารถกระจายผลผลิตด้วยวิธีการค้าออนไลน์ให้มากขึ้น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะฝ่ายเลขานุการ Fruit Board ได้จัดทำแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ช่วงวิกฤตการณ์ COVID-19 ซึ่งเน้นการป้องกันและพึงระวังตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง ทั้งการเก็บเกี่ยวและการจัดการในสวนผลไม้จนถึงการขนส่งไปยังผู้บริโภคให้มีการปฏิบัติที่ปลอดภัย ดังนี้

  1.  ต้นทาง โดยจัดการความเสี่ยง และควบคุมจุดวิกฤตซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดหนักตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ด้วยความเหมาะสมต่อการทำงานการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ แยกพื้นที่การผลิต ควบคุมผู้ส่งออก การเก็บรักษา และตลอดสายการผลิตกำหนดให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น หน้ากากอนามัย และถุงมืออย่างเหมาะสม มีการเว้นระยะห่าง จำกัดจำนวนคนงานที่อยู่ในพื้นที่การผลิต ลดการปฏิสัมพันธ์ และจัดสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัยอย่างเพียงพอ รวมถึงการทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ พนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับอาหารต้องหมั่นสังเกตตัวเองหากมีอาการบ่งชี้ว่าอาจได้รับเชื้อ ไม่ควรมาทำงาน และดำเนินการตามมาตรการลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อทันที
  2. กลางทาง-ปลายทาง ให้ปฏิบัติตามประกาศของกรมการขนส่งทางบกที่กำหนดมาตรการปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สำหรับผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของที่มีการเข้า-ออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดไว้ ดังต่อไปนี้

                             2.1 ผู้ประกอบการขนส่งต้องทำความสะอาดยานพาหนะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทั้งภายในและภายนอกตัวยานพาหนะก่อนบรรทุกสินค้าทุกครั้ง กรณีบรรทุกขนส่งสินค้าประเภทอาหารสดจะต้องมีเอกสารรับรองว่าสินค้าผ่านมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดไว้ประจำรถด้วย เช่น กรณีอาหารทะเลต้องมีเอกสารรับรองจากกรมประมง เป็นต้น

                             2.2 ผู้ประกอบการขนส่งต้องกำชับให้พนักงานขับรถควรอยู่แต่ในรถไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องระหว่างการขนถ่ายสินค้าและสัมผัสกับตัวสินค้าตลอดการขนส่ง โดยจะต้องดูแลเรื่องความสะอาดของตนเอง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา และมีแอลกอฮอล์เจลติดตัวไว้ทำความสะอาดมืออย่างสม่ำเสมอ หากมีความจำเป็นที่พนักงานขับรถจะต้องสัมผัสกับตัวสินค้า พนักงานขับรถต้องสวมถุงมือยางและสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาจนกว่าจะทำการขนส่งสินค้าเสร็จ

                             2.3 ผู้ประกอบการขนส่งต้องกำชับให้เจ้าหน้าที่สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติงานและมีการตรวจสอบสภาพร่างกายเจ้าหน้าที่และพนักงานขับรถ โดยจัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อคัดกรองรายวันก่อนปฏิบัติงานทุกวัน หากพบเจ้าหน้าที่หรือพนักงานขับรถคนใดที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการไอ เจ็บคอ หอบ เหนื่อย จะต้องไม่อนุญาตให้ทำงานหรือเข้ามาภายในสถานประกอบการจนกว่าจะได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19

                             2.4 ผู้ประกอบการขนส่งจะต้องดูแลและทำความสะอาดภายในบริเวณสถานประกอบการและบริเวณสถานที่ขนถ่ายสินค้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อให้มั่นใจว่ามีความสะอาดเพียงพอและปลอดเชื้อไวรัส COVID-19

                             2.5 ผู้ประกอบการขนส่งต้องปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางการดำเนินการเพื่อเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่กำหนดโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอย่างเคร่งครัด

This image is not belong to us

Tags: newsข่าวจังหวัดน่าน
Previous Post

(มีคลิป) บรรยากาศเทศกาลตรุษจีน จังหวัดน่าน ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนทำพิธีไหว้บรรพบุรุษ เพื่อเป็นสิริมงคล

Next Post

บุกจับร้านโอเกะในเมืองน่าน แฝงค้ากามเด็กสาวต่ำกว่า18ปี

น่าน

น่าน

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

Next Post
บุกจับร้านโอเกะในเมืองน่าน แฝงค้ากามเด็กสาวต่ำกว่า18ปี

บุกจับร้านโอเกะในเมืองน่าน แฝงค้ากามเด็กสาวต่ำกว่า18ปี

บทความ แนะนำ

เปิดคลังภูมิปัญญาสล่า“พุทธศิลป์วัดแสงดาว”ศูนย์เรียนรู้เชิงช่างพื้นถิ่นภูเพียงสู่พื้นที่สร้างสรรค์น่าน

“หมอชลน่าน”ยันร่าง MOU พรรคก้าวไกล ไม่มีเงื่อนไข ม.112-“เพื่อไทย”ไม่เอานิรโทษกรรม

คนอุบลฯ โวยมีชื่อเลือกตั้งนอกเขตไกลจากอีสานโผล่ทั้งภาคเหนือและภาคใต้

‘น่านบันดาลใจ’จริง!อพท.นำเครือข่ายยกระดับหัตถกรรม-ศิลปะพื้นบ้านน่าน ปั้นเมืองสร้างสรรค์ชงยูเนสโกปีนี้

“น่าน” ผนึกเครือข่าย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “กำแพงเมืองเก่า-คูเมืองน่าน”ต่อเนื่อง เชื่อมประวัติศาสตร์กับวิถีคนน่าน บันดาลไอเดียหนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวยั่งยืน

‘เพื่อไทย”จ่อเปิดเวทีใหญ่บางระกำซ้ำ 30 เมษาฯนี้ ‘สมศักดิ์’ลั่น พท.แลนด์สไลด์ สร้างงานทันควัน-เงินดิจิทัลแก้เศรษฐกิจฉับพลัน

“ธรรมนัส” ลั่น! 8 จว.ภาคเหนือ “พลังประชารัฐ” ได้เก้าอี้ ส.ส.ทุกจังหวัดแน่

“เศรษฐา” ควง “โอ๊ค” ลงพื้นที่แม่กลอง ขอพรหลวงบ้านแหลม พร้อมช่วยลูกพรรคหาเสียง

“ชัยเกษม”แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย วูบ ต้องนำส่ง รพ.ระหว่างหาเสียงเมืองน่าน เตรียมส่งรักษา กทม.พรุ่งนี้

สุดเศร้า! อดีต ส.อบต.ร่วมทีมอาสาดับไฟป่า เจอลมแรงหัวไฟเปลี่ยนทิศโดนคลอกดับ

เชียงใหม่เผชิญวิกฤตฝุ่นควันต่อเนื่อง-ค่ามลพิษอากาศพุ่งยึดแน่นอันดับ 1 เมืองหลักอากาศเลวร้ายที่สุดโลก

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และมูลนิธิพุทธรักษา มอบวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือป้องกัน-ดับไฟป่า

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนส่งทางรถไฟ รถไฟฟ้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตเส้นไหม การผลิตและบรรจุยา การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การหีบฝ้าย ปั่นนุ่น การเคลือบ ชุบ อาบขัดโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ น่าน บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.น่าน เขต 1 สพป.น่าน เขต 2 สพม.เขต 37 สมาคม หน่วยงานราชการ อบจ. อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา น่าน



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!