ชลน่าน มั่นใจหลักฐานเพียงพอมัด ‘ประยุทธ์’ หลุดเก้าอี้นายกฯได้ เผยคำวินิจฉัยศาลรธน. ไม่มีผลต่อการยุบสภา ชี้สังคมยังเห็นต่าง ตู่-ป้อม ใครต้องรักษาการนายกฯ
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 30 ก.ย.ว่า เป็นผลจากการที่ศาลพิเคราะห์หลักฐานทั้งหมดแล้ว เห็นว่าครบถ้วนเพียงพอ ไม่ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมอีก ถือว่าสิ้นข้อสงสัย จึงทิ้งเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปทำคำวินิจฉัยส่วนตนเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนมาแถลงคำวินิจฉัยในวันที่ 30 ก.ย.นี้
พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าพยานหลักฐานต่างๆ ที่ยื่นไปทั้งหมด มีหลักฐานเพียงพอว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องสิ้นสภาพการดำรงตำแหน่งนายกฯ ในวันที่ 24 ส.ค.2565
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จริง ใครจะทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ หรือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้น ยังเป็นข้อถกเถียงทางกฎหมายอยู่ เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 ระบุว่า หากนายกฯ พ้นตำแหน่ง ให้ครม. รวมถึงนายกฯอยู่รักษาการต่อ จนกว่าจะมีครม.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่
ยกเว้น 4 กรณีที่ครม.ไม่สามารถทำหน้าที่รักษาการต่อได้คือ 1.ความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา144 เกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน 2.ความผิดในลักษณะต้องห้ามของตัวนายกฯ 3.ความผิดเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต 4.การฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งกรณีวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ ยังเป็นข้อถกเถียงทางกฎหมายว่า จะเข้าเงื่อนไขข้อยกเว้น 4 ข้อ ที่ห้ามพล.อ.ประยุทธ์ ทำหน้าที่รักษาการนายกฯต่อไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คิดว่าไม่มีผลต่อการพิจารณายุบสภา เพราะมีเหตุผลอื่นที่เป็นองค์ประกอบหลักมากกว่า อาทิ การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปก การวางตัวบุคคลเตรียมพร้อมเลือกตั้ง และเสียงเรียกร้องของประชาชนให้ยุบสภาจะดังแค่ไหน ที่รัฐบาลต้องเอามาประกอบตัดสินใจเรื่องยุบสภา