“หมอชลน่าน” หวั่น “บิ๊กตู่” ลากยาวผูกขาดอำนาจชักนำวงจรอุบาทว์กลับมา เสี่ยงนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง
เมื่อวันที่ 19 ส.ค.65 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี แต่ยังสามารถรักษาการอยู่ต่อไปได้ ว่า กรณีที่นายกฯ จะอยู่รักษาการต่อไม่ได้นั้นมีอยู่ 4 เงื่อนไข คือ 1.กรณีขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 98 2.ขาดคุณสมบัติเรื่อง มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ 3.ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตราฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง และ 4.พ้นเพราะผิด มาตรา 144 เรื่องงบประมาณ ซึ่งกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น เป็นการยื่นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง และมาตรา 158 วรรคสี่ ดังนั้นถ้าศาลสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งก็ยังสามารถรักษาการต่อไปได้สิ่งที่จะตามมาคือการเลือกนายกฯ คนใหม่ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา แต่เรากังวลว่าหากรัฐสภาเลือกนายกฯ ไม่ได้ ก็ต้องเลือกไปเรื่อยๆ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังต้องรักษาการต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเลือกได้ แน่นอนความเสียหายกับประเทศจะเพิ่มขึ้น เพราะขนาดมีอำนาจเต็มยังไม่สามารถฝ่าวิกฤติได้ แต่ที่เรากังวลคือการรักษาการไปเรื่อยๆ เช่นนี้ เป็นสัญญาณการอยู่ยาวเกิน 8 ปี จะมีการผูกขาดอำนาจทางการเมือง สุ่มเสี่ยงนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง แล้วจะเกิดวิกฤติทางการเมือง ถ้าจบไม่ดีมีการยึดอำนาจวงจรอุบาทว์จะกลับมาไม่สิ้นสุด