11 ธ.ค. 2564 | 16:28:36
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ในหลายพื้นที่อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่
จากข้อมูลจากการเฝ้าระวังโรคติดต่อของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 6 ธันวาคม 2564 มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 10,020 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ เด็กแรกเกิด ถึง 4 ปี รองลงมาคือ อายุ 25-34 ปี และ อายุ 15-24 ปี จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือ อุบลราชธานี พิษณุโลก เชียงราย น่าน และตาก ตามลำดับ
โรคไข้หวัดใหญ่ สามารถติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย แพร่เชื้อผ่านการไอ จาม รดกัน หรือได้รับเชื้อจากการสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ผ้าเช็ดมือ โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก หลังจากได้รับเชื้อจะมีไข้สูง ไอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ไม่มีแรง เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบและเจ็บคอ บางรายสามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน ในกลุ่มเด็กอาจพบอาการระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้มีโรคเรื้อรัง บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) และโรคอ้วน หากป่วยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปอดบวม หายใจลำบาก และอาจทำให้เสียชีวิตได้
สำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์ทันที
” สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น ขอให้ดูแลสุขภาพ รักษาร่างกายให้อบอุ่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอให้ร่างกายแข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ได้แก่ ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม โดยใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูทุกครั้ง ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้าง คือ ล้างมือด้วยสบู่และน้ำเป็นประจำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ 70% ถูมือให้ทั่วก่อนรับประทานอาหาร และภายหลังเข้าห้องน้ำ ห้องส้วม หรือหยิบจับสิ่งของต่างๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น ลูกบิด ราวบนรถโดยสาร เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือในสถานที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น เว้นระยะห่างระหว่างจากผู้อื่น และ หยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม แม้ผู้ป่วยมีอาการไม่มาก ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ โดยการปฏิบัติดังกล่าวจะทำให้ลดความเสี่ยงจากโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ โรคติดต่อทางเดินหายใจอื่นๆ และโรคโควิด 19 “

Share this:

