เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา
14.30 น.พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน, พ.ต.ท.เดี่ยว ศรีวิชัย สว.สส.สภ.เมืองน่าน,ร.ต.อ.อนุรักษ์ ชันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน,ร.ต.อ.สมาน ไข่คำ รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน , ร.ต.อ.บนดล ยินทรประษฐ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองน่านพร้อมด้วย จนท.ตร.ชุด สืบสวนจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันจับกุุมตัวนายนาเคนทร์ สัมยศ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 152 หมู่ 11 ต.กองควาย อ.เมืองน่าน จ.น่าน 1.เงินสด จำนวน 1,160 บาท ที่ตรวจพบอยู่ในช่องเก็บของใต้เบาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า
รุ่นเวฟ 100 สีน้ำเงิน-ซาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ผู้ต้องหารับว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของตนเองที่ใช้ชับขี่
จำนวน 1 ค้น จับกุมที่หน้าบ้านไม่ทราบเลขที่ บ้านนาแห้ว หมู่ 11 ต.กองควาย อ.เมืองน่าน จ.น่าน
หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุวิทยุ นันทบุรีว่า ได้เกิดเหตุ คนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ตู้เงินบริจาค ที่กฏิวัดบ้านนํ้าครกเก่า ต.กองควาย อ.เมืองน่าน จ.น่าน ภายในตู้มีเงินประมาณ 1,000 กว่าบาท ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจสอบฯนั้น
จึงได้รุดไปที่ วัดบ้านน้ำครกเก่า หมู่ 5 ต กองควาย อ.เมืองน่าน จ. น่าน โดยเมื่อไปถึงที่ได้ตรวจสอบและสืบสวนหาข่าวในที่เกิดเหตุ จนทราบถึงบุคคลต้องสงสัยทราบชื่อว่านายนาเคนทร์ สัมยศ มีอาชีพเป็นสล่า ก่อสร้างตามวัดต่างๆเป็นราษฎรบ้านนาแห้ว หมู่ 11 ต.กองควาย อ.เมืองน่าน จ.น่าน ที่เคยก่อเหตุลักทรัพย์และพ้นโทษออกมา จึงได้ทำการติดตามและได้พบนาย นาเคนทร์ ลัมยศ ผู้ต้องหา ได้ที่หน้าบ้านเพื่อนในหมู่บ้านเดียวกันไม่ทราบเลซที่โดยพบว่าที่บริเวณถานริมถนนหน้าบ้านฯ
รถจักรยานยนต์ยี่ห้อออนต้า รุ่นเวฟ ๑00 สีน้ำเงิน ขาว (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน)จอดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
โคยร.ต.อ.สมาน ไข่คำ รอง สว.สส.สก.เมืองน่าน จึงได้เข้าพบและแสดงตัว ได้ทำการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าล้อเล่นกับเจ้าอาวาสเท่านั้น
จากนั้น จนท.ชุดจับกุมได้ขอตรวจสอบรถจักรยานยนต์เปิดเบาะพบว่ามีเงินสด จำนวน 1,160 บาทและยอมรับว่าเป็นเงินสดที่ได้จากการลักทรัพย์ตู้เงินบริจาคข้างตันจึงได้ควบคุมตัวนายนาเคนทร์ ฯ พร้อมของกลางทั้งหมดนำส่ง ร.ต.อ.ชวลิต เทรักสี พงส.สภ.เมืองน่านแจ้งข้อกล่าวหาว่า”ลักทรัพย์
ในเคหะสถานในเวลากลางคืน” หรือ “รับของโจร” ในขั้นจับกุมผู้ต้องหา ให้การ รับสารภาพในข้อหาสักทรัพย์ฯ ปฏิเสธในข้อหา รับของโจร เพื่อดำเนินคดีต่อไป
