
ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา สมัยวิสามัญ ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธารัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ… (แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1) เป็นการพิจารณาเพื่อลงมติในวาระ 3 โดยที่ประชุมรับทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ในการจัดทำรัฐธรรมนูญที่ต้องทำประชามติก่อน
ทั้งนี้ นายชวนแจ้งต่อที่ประชุมถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 ตามที่รัฐสภายื่นคำร้องให้วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ต่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำใหม่ได้ โดยให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญลงประชามติก่อนว่าประสงค์ให้มีรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ และเมื่อทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้องให้ประชาชนลงมติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ ก่อนเปิดให้สมาชิกอภิปราย
ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รัฐสภาเสียงแตกวุ่น หาทางออกโหวตวาระสาม ‘เดินหน้า-ล้ม-ชะลอ-ยื่นศาลอีกรอบ’
- ส.ว.รุมประท้วง ส.ส.ก้าวไกล ชูภาพ 11 แกนนำราษฎร ปล่อยนักกิจกรรม เรียกร้องรธน.
- ‘โรม’ ชี้ต้องลงมติวันนี้ ยันกระบวนการทุกอย่างถูกต้อง ส.ส.ก้าวไกล ชูรูปแกนนำคณะราษฎรที่ถูกขัง ส.ว.ประท้วงวุ่น
- รัฐสภา เดือด! ส.ว.กิตติศักดิ์ อัดก้าวไกล อ้างม็อบหลักร้อย หนุนแก้ รธน. เจอชวนสั่งถอน
ต่อมา เวลา 18.30 น ภายหลังจากการหารือของสมาชิกรัฐสภาเสร็จสิ้น นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ชี้แจงสรุปว่า การหารือกันในที่ประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้ เนื่องจากคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่มีความเห็นหลากหลาย แม้แต่ส.ว.ที่เป็นเอกภาพ แต่ก็มีบางท่านเห็นไม่สอดคล้องกัน หรือกระทั่งพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็เห็นไม่ตรงกันทั้งหมด ซึ่งความเห็นของสมาชิกถือเป็นอิสระ และการบรรจุระเบียบวาระในวันนี้ก็เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ส่วนที่สมาชิกมีความกังวลว่าเราจะทำผิดมติศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขออย่ากังวล ถ้าเราเชื่อมั่นโดยสุจริตว่าเป็นสิทธิ์ของสมาชิกที่ปฏิบัติได้
จากนั้น ประธานรัฐสภา ระบุว่า ฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้รวบรวมญัตติเป็น 3 ญัตติ คือ 1.ญัตติของนายสมชาย แสวงการ และนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ที่ขอให้ที่ประชุมมีมติว่าไม่ให้มีการพิจารณาลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 เพราะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 2.ญัตติของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ตามมาตรา 210 (2) และ3.ญัตติของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่ขอให้พิจารณาตามระเบียบวาระ คือ ลงมติวาระที่ 3
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ตั้งข้อสังเกตต่อที่ประชุมว่า ญัตติที่ 1 ของนายสมชาย และนายเสรี ที่ขอให้ที่ประชุมมีมติว่าไม่ให้มีการพิจารณาลงมติร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 เพราะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะมีปัญหา เพราะหากที่ประชุมโหวตผ่านจะเท่ากับร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะลงมติวาระ 3 จะเป็นอันตกไป ซึ่งหากไม่ขัดคำวินิจฉัยถามว่าใครจะรับผิดชอบ วันนี้เราไม่โหวตวาระ 3 เพราะเรากำลังวินิจฉัยกันเองว่าขัดหรือไม่ขัด แต่หากปรากฎภายหลังว่าไม่ขัด แต่วันนี้เราไม่โหวต แล้วมีคนไปยื่นร้องว่าเราไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 จะเกิดปัญหาภายหลังได้ ตนจึงอยากฝากเป็นข้อสังเกตว่าญัตติที่ 1 น่าจะมีปัญหามาก
จากนั้น ประธานรัฐสภา ชี้แจงว่า ผู้เสนอญัตติที่ 1 เสนอด้วยความเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้ลงมติร่างรัฐธรรมนูญ วาระ 3 จึงเกิดความกังวลว่าหากลงมติจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
เวลา 19.28 น. ระหว่างที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กำลังประท้วงการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุม ปรากฎว่า ได้เกิดเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังไปทั่วอาคารรัฐสภา ทั้งห้องสื่อมวลชน รวมถึงในห้องประชุมรัฐสภา จนเกิดความแตกตื่น โดยส.ว.และส.ส.หลายคนต่างลุกขึ้นยืนอย่างตื่นตระหนก โดยนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นถามว่า “นี่เป็นปสัญญาณไฟไหม้หรือเปล่าครับท่านประธาน ขอทราบความชัดเจน”” ขณะเดียวกันมีเสียงส.ส.หญิง ตะโกนถามว่า “เกิดอะไรขึ้น เราควรออกจากห้องประชุมก่อนดีไหม”
ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ถึงแม้จะมีเหตุการณ์อย่างไรก็อยากให้ท่านวินิจฉัย” ก่อนจะหัวเราะ ระบุอีกว่า “วินิจฉัยหนีหรือเปล่าครับ ท่านประธานอย่าวินิจฉัยว่าไฟไหม้นะครับ” ทำให้ นายชวน ได้พูดติดตลกว่า “คงเพราะอภิปรายกันจนน้ำไหลไฟดับ” แต่ทั้งนี้ หลังสัญญาณดังขึ้นประมาณ 2 นาทีก็หยุดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ และการประชุมได้ดำเนินการต่อไป โดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น
ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า อาจเกิดจากมีคนสูบบุหรี่อยู่ใกล้เครื่องจับสัญญาณจนทำให้สัญญาณเตือนไฟไหมดังขึ้น อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่า จะโหวตอย่างไร กระทั่ง เวลา 19.35 น. นายชวน ได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 20 นาที

