วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2025
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • แผนผังเว็บไซท์
  • Login
น่าน
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
น่าน
No Result
View All Result
Home ข่าว

วัดภูมินทร์ เมืองน่าน พระอุโบสถ-พระวิหารทรงจตุรมุขหลังแรกของไทย ยลจิตรกรรมกระซิบรักบันลือโลก

น่าน by น่าน
3 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 1min read
160
0
101
SHARES
202
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

เผยแพร่: 9 พ.ย. 2565 07:58   ปรับปรุง: 9 พ.ย. 2565 07:58   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มาเยือนเมืองน่าน แล้วไม่ได้แวะมา “วัดภูมินทร์” ก็เสมือนยังมาไม่ถึงจังหวัดน่าน คำกล่าวนี้ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะวัดเก่าแก่อายุกว่า 400 ปีแห่งนี้ นับเป็นหนึ่งในวัดคู่บ้านคู่เมือง เป็นโบราณสถานที่วิจิตรงามหาชมได้ยาก 

โดยเฉพาะภายในพระอุโบสถ-พระวิหารที่มีงานจิตรกรรม “กระซิบรัก” ภาพเขียนของชายหญิงยืนกระซิบกระซาบซึ่งภาพดังกล่าว ได้ถูกนำไปผลิตซ้ำดัดแปลงสร้างสรรค์ไปอีกหลากหลายรูปแบบ จนกลายเป็นภาพแทนสัญลักษณ์แห่งเมืองน่านที่สามารถพบเจอได้แทบทั้งจังหวัด



มีบันทึกประวัติการสร้างวัดตามพงศาวดารเมืองน่านไว้ว่า “พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์” เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 40 ได้สร้างวัดภูมินทร์ขึ้นหลังจากที่ครองนครน่านได้ 6 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2139 โดยชื่อวัดมีที่มาปรากฏในหลักฐานคัมภีร์เมืองเหนือว่าแต่เดิมชื่อ “วัดพรหมมินทร์” สอดคล้องตามชื่อของพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ แต่สันนิษฐานว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปก็คงมีการเรียกชื่อเพี้ยนกลายมาเป็น “วัดภูมินทร์” อย่างในปัจจุบัน และในปี พ.ศ. 2523 วัดภูมินทร์ก็ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร



ภาพแรกของอาคารที่ปรากฏต่อสายตาผู้มาเยือนวัดนั้น ถือเป็นโบราณสถานสำคัญ คือ “พระอุโบสถกับพระวิหาร” ซึ่งเป็นอาคารหลังเดียวกันนั่นเอง สถาปัตยกรรมฉายความโดดเด่นหาชมได้ยากด้วยรูปแบบทรงจตุรมุข เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา มีมุขยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน ผังเป็นรูปกากบาท ซึ่งอาจได้รับอิทธิพลของสถาปัตยกรรมจากอานันทเจดีย์ที่เมืองพุกาม ประเทศเมียนมา และสันนิษฐานว่าสถาปัตยกรรมลักษณะนี้น่าจะสร้างขึ้นเป็นหลังแรกของประเทศไทย

ความวิจิตรภายนอก ที่ผู้มาเยือนเห็นได้จากด้านหน้าประตูอุโบสถทางด้านทิศเหนือ มีรูปปั้นพญานาคสองตน ทอดยาวขนาบข้างบันไดทั้ง 2 ฝั่ง รับไปกับอาคารพระอุโบสถกับพระวิหาร คล้ายเอาหลังหนุนไว้ เรียกว่า นาคสะดุ้ง ซึ่งน่าจะเป็นการสร้างที่มาจากความเชื่อว่าพญานาคเป็นสัตว์มงคลที่คอยเกื้อหนุนพระพุทธศาสนา ดังตำนานว่าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระองค์ได้เสด็จผ่านบันไดแก้วที่เทวดาเนรมิตขึ้น และมีพญานาค 2 ตัวหนุนหลังเอาไว้



บันไดพญานาคของวัด มีช่องทรงโค้งทั้ง 2 ด้าน บริเวณกลางลำตัวสร้างเป็นซุ้มประตูโค้งสามารถเดินลอดได้ จึงมีเรื่องเล่าจากคนเก่าแก่ว่า หากคู่รักได้มาเดินลอดซุ้มโค้งพญานาควนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ ความรักก็จะมั่นคงยืนยาวสมหวัง บ้างก็เชื่อในเรื่องสุขภาพ และยังเชื่อว่าหากคนต่างถิ่นมาลอดแล้วจะมีโอกาสได้กลับมาเยือนเมืองน่านอีก



ทางเข้าพระอุโบสถ-พระวิหาร ทั้ง 4 ด้านมีประตูไม้แกะสลักโดยฝีมือของช่างล้านนา เมื่อก้าวเข้าไปด้านใน จะพบว่าโครงสร้างของอาคารและหลังคานั้นค้ำด้วยเสาไม้สักขนาดใหญ่ 12 ต้น ลงรักปิดทองเคลือบเงาเป็นลายพฤกษาและช้างสีทองงดงาม และพบกับความตระการตาแสนวิจิตร คือ “พระพุทธมหาพรหมอุดมศักยมุนี” หรือ “พระประธานจตุรพักตร์” พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยปางมารวิชัย สีทองอร่าม 4 องค์ ประทับนั่งบนฐานชุกชี หันพระพักตร์ออกไปสู่ประตูทั้ง 4 ทิศ และหันเบื้องพระปฤษฎางค์ (หลัง) เข้าหากันตรงกลางของพระอุโบสถ ดังนั้น ไม่ว่าจะก้าวเข้ามาจากประตูพระอุโบสถ-พระวิหารจากฝั่งใด ก็ได้เห็นพระพุทธรูปองค์ประธานเสมอ



ในช่วงสมัย “พระเจ้าอนันตวรฤทธิเดช” เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 62 มีการบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ-พระวิหาร ใช้เวลาในการบูรณะยาวนานกว่า 8 ปี (ช่วงปี พ.ศ. 2410-2417) ซึ่งหลังจากนั้นจึงมีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเกิดขึ้น สันนิษฐานว่า วาดในสมัย “พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช” เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63



โดยผู้อยู่เบื้องหลังงานจิตรกรรมดังกล่าว คือ “หนานบัวผัน” หรือ ทิดบัวผัน จิตรกรเชื้อสายไทลื้อชาวน่าน ที่มีฝีมือการวาดที่เป็นเลิศ ทันสมัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นสีแดง ฟ้า ดำ และน้ำตาลเข้ม ซึ่ง “อาจารย์วินัย ปราบริปู” ศิลปินและนักวิชาการศิลปะแห่งหอศิลป์ริมน่าน ค้นคว้าข้อมูลไว้ว่า จิตรกรรมของหนานบัวผันที่วัดภูมินทร์นั้น น่าจะเขียนขึ้นในช่วง ปี พ.ศ. 2443 หรือ 2446 ภายหลังจากที่เคยวาดจิตรกรรมฝาผนังที่วัดหนองบัว ในอำเภอท่าวังผา



จิตรกรรมภายในวัดภูมินทร์นั้น งดงามด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ วาดเรื่องราวของพุทธชาดก ตำนานพื้นบ้าน และวิถีความเป็นอยู่ของชาวน่านในอดีต แต่สำหรับจิตรกรรมที่มีชื่อเสียงเลื่องลือที่สุด ต้องยกให้กับภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” หรือ “ปู่ม่านย่าม่าน” ภาพที่ชายหญิงคู่หนึ่งจับไหล่ป้องมือคล้ายกระซิบกระซาบกัน ส่งสายตากรุ้มกริ่มแสดงสีหน้าผ่านลายเส้นได้อย่างน่าอัศรรย์ ปู่ม่านย่าม่านนั้น มิได้หมายถึงคนเฒ่าคนแก่ หากแต่เป็นคำเรียกแทนชายหญิงที่พ้นวัยเด็กไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับกิริยาในภาพเพราะการถูกเนื้อต้องตัวกันในสมัยก่อน ต้องเป็นคู่รักสามีภรรยากัน



ภาพกระซิบรักบันลือโลกที่วัดภูมินทร์ ถือเป็นงานศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์คู่เมืองน่าน ซึ่งด้วยความมีชื่อเสียงในเชิงความงามด้านศิลปะไม่ใช่ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ จึงมีการผลิตซ้ำ แปรรูป ดัดแปลง เติมแต่งความคิดสร้างสรรค์ต่างๆไปอย่างหลากหลายในเชิงพาณิชย์ สามารถพบเจอได้แทบทั้งจังหวัดน่าน และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นเมืองน่านได้แบบไม่ซ้ำที่ใดในโลก



#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ [email protected] หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline



Tags: newsข่าวจังหวัดน่าน
Previous Post

ลอยกระทงสายไหลประทีป 2 หมื่นดวง 1 เดียวในพิษณุโลกที่วัดสนามคลีตะวันออก – Phitsanulok Hotnews

Next Post

ทม.น่านนำเยาวชน เก็บคัดแยกกระทง ใช้ประโยชน์จากขยะ

น่าน

น่าน

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

Next Post
ทม.น่านนำเยาวชน-เก็บคัดแยกกระทง-ใช้ประโยชน์จากขยะ

ทม.น่านนำเยาวชน เก็บคัดแยกกระทง ใช้ประโยชน์จากขยะ

บทความ แนะนำ

เปิดคลังภูมิปัญญาสล่า“พุทธศิลป์วัดแสงดาว”ศูนย์เรียนรู้เชิงช่างพื้นถิ่นภูเพียงสู่พื้นที่สร้างสรรค์น่าน

“หมอชลน่าน”ยันร่าง MOU พรรคก้าวไกล ไม่มีเงื่อนไข ม.112-“เพื่อไทย”ไม่เอานิรโทษกรรม

คนอุบลฯ โวยมีชื่อเลือกตั้งนอกเขตไกลจากอีสานโผล่ทั้งภาคเหนือและภาคใต้

‘น่านบันดาลใจ’จริง!อพท.นำเครือข่ายยกระดับหัตถกรรม-ศิลปะพื้นบ้านน่าน ปั้นเมืองสร้างสรรค์ชงยูเนสโกปีนี้

“น่าน” ผนึกเครือข่าย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “กำแพงเมืองเก่า-คูเมืองน่าน”ต่อเนื่อง เชื่อมประวัติศาสตร์กับวิถีคนน่าน บันดาลไอเดียหนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวยั่งยืน

‘เพื่อไทย”จ่อเปิดเวทีใหญ่บางระกำซ้ำ 30 เมษาฯนี้ ‘สมศักดิ์’ลั่น พท.แลนด์สไลด์ สร้างงานทันควัน-เงินดิจิทัลแก้เศรษฐกิจฉับพลัน

“ธรรมนัส” ลั่น! 8 จว.ภาคเหนือ “พลังประชารัฐ” ได้เก้าอี้ ส.ส.ทุกจังหวัดแน่

“เศรษฐา” ควง “โอ๊ค” ลงพื้นที่แม่กลอง ขอพรหลวงบ้านแหลม พร้อมช่วยลูกพรรคหาเสียง

“ชัยเกษม”แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย วูบ ต้องนำส่ง รพ.ระหว่างหาเสียงเมืองน่าน เตรียมส่งรักษา กทม.พรุ่งนี้

สุดเศร้า! อดีต ส.อบต.ร่วมทีมอาสาดับไฟป่า เจอลมแรงหัวไฟเปลี่ยนทิศโดนคลอกดับ

เชียงใหม่เผชิญวิกฤตฝุ่นควันต่อเนื่อง-ค่ามลพิษอากาศพุ่งยึดแน่นอันดับ 1 เมืองหลักอากาศเลวร้ายที่สุดโลก

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และมูลนิธิพุทธรักษา มอบวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือป้องกัน-ดับไฟป่า

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนส่งทางรถไฟ รถไฟฟ้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตเส้นไหม การผลิตและบรรจุยา การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การหีบฝ้าย ปั่นนุ่น การเคลือบ ชุบ อาบขัดโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ น่าน บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.น่าน เขต 1 สพป.น่าน เขต 2 สพม.เขต 37 สมาคม หน่วยงานราชการ อบจ. อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา น่าน



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!