เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่สถานีตำรวจเวียงสาอำเภอเวียงสาจังหวัดน่าน ซึ่งมี พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. , นายนิพันธ์ บุญหลวง ผวจ.น่าน พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.จ.น่าน ,นายเกรียงไกร เวชอนุรักษ์ นายอำเภอเวียงสา ผู้แทนจากสำนักงาน ป.ป.ส. มณฑลทหารบกที่ 38 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้
ตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิต และเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ตลอดจนการป้องกัน และปราบปรามแหล่งชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด และชุมชนที่เชื่อว่าเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด และพื้นที่ล่อแหลม
โดยกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ได้ดำเนินการสืบสวนติดตามกลุ่มนักค้ายาเสพติด ที่มีบทบาทสำคัญในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากนอกประเทศ ผ่านพื้นที่ตามแนวชายแดน รับจ้างขนส่งและลำเลียงยาเสพติดให้กับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ นำส่งเครือข่าย ในพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร หรือปริมณฑล ก่อนลำเลียงไปยังภาคใต้ และส่งต่อประเทศที่ 3 โดยกลุ่มนักค้ายาเสพติดกลุ่มนี้มีพฤติการณ์รับจ้างลักลอบลำเลียงยาเสพติดให้กับกลุ่มนายทุนผู้ค้ายาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือทางด้านจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีความสัมพันธ์ในลักษณะเครือญาติ มีการแบ่งแยกหน้าที่ในการจัดเตรียมยานพาหนะ และแบ่งการลำเลียงออกเป็นระยะ จากพื้นที่ชายแดน –พื้นที่ภาคกลาง – พื้นที่ภาคใต้
โดยใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่บรรทุกพืชผลทางการเกษตร รถตู้ทึบ สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดในแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลจำนวนหลายคันในการขับขี่นำทาง สำรวจเส้นทางล่วงหน้า ติดตามและเฝ้าระวังคุ้มกัน การลำเลียงยาเสพติด โดยใช้เส้นทางถนนสายรอง เพื่อเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งกลุ่มเครือข่ายนี้ใช้กระบวนการฟอกเงินโดยเปิดบัญชีธนาคารและ ทำธุรกรรมทางการเงินรวมไปถึง การดำเนินการในรูปแบบของการเปิดบริษัท หรือร้านค้า เพื่ออำพรางปิดบังทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทำให้เกิดความซับซ้อน ในการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้น เพื่อเป็นการทำลายกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดข้างต้น กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดยกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด จึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้การดำเนิน การปราบปรามยาเสพติดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ โดยระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2561-2564 สามารถจับกุมคดียาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดน่าน และจังหวัดแพร่ จำนวน 10 คดี ผู้ต้องหา 25 คน ของกลาง ยาบ้า 51,496,000 เม็ด และ ไอซ์ จำนวน 60 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 9,000,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งสิ้นประมาณ 25 ล้านบาท
พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดช่องทางแจ้งเบาะแส ยาเสพติดและรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วประเทศที่หมายเลข 1599 และศูนย์ 191 ทุกจังหวัดเพื่อเป็นทางเลือกในการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสเรื่องยาเสพติดเพิ่มขึ้นกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 88 หมู่ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่กรุงเทพมหานคร 10210 หรือโทร. 025218266 –75 www.thaidrugpolice.com
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น