วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2025
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • แผนผังเว็บไซท์
  • Login
น่าน
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
น่าน
No Result
View All Result
Home ข่าว

‘ปทุมธานีโมเดล’ รูปธรรมการแก้ไขปัญหาชุมชนบุกรุกที่ดินริมคลองหนึ่ง

น่าน by น่าน
5 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 3min read
161
0
102
SHARES
203
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

This image is not belong to us

วันนี้ (1 มีนาคม 2564) เวลา 9.00 น.  จังหวัดปทุมธานีร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนที่รุกล้ำลำคลองและเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในโครงการ “ปทุมธานีโมเดล” ที่ชุมชนไทยมุสลิมสามัคคี ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และโครงการในที่ดินราชพัสดุ 30 ไร่ ตรงข้าม ม.ธรรมศาสตร์รังสิต  โดยมีนายชัยวัฒน์  ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี  นายสุพัฒน์  จันทนา  ผู้อำนวยการภาคกรุงเทพฯ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)  พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ  และเครือข่ายองค์กรชุมชนในจังหวัดปทุมธานีและกรุงเทพฯ เข้าร่วมกว่า 100 คน

This image is not belong to us

ชุมชนไทยมุสลิมสามัคคี ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง  จ.ปทุมธานี  ก่อสร้างบ้านเสร็จตั้งแต่ปี 2560 มีผู้อยู่อาศัย 100 ครอบครัว

‘โครงการปทุมธานีโมเดล’  เป็นนโยบายในยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เริ่มดำเนินการในปี 2559  เพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดรุกล้ำลำน้ำสาธารณะในจังหวัดปทุมธานี  และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะที่บริเวณคลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ซึ่งมีชาวบ้านปลูกบ้านเรือนรุกล้ำลำคลองมานานหลายสิบปี จำนวน 16 ชุมชน รวม 1,433 ครัวเรือน

โดยรัฐบาลในขณะนั้นมอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย จัดทำโครงการ “ปทุมธานีโมเดล” เพื่อรองรับประชาชนที่ต้องรื้อย้ายบ้านเรือนออกจากคลองหนึ่งจำนวน 2 โครงการ  คือ 1.โครงการบ้านมั่นคงไทยมุสลิมสามัคคี  หรือชุมชนแก้วนิมิตรเดิม จำนวน 100 ครอบครัว และ 2.โครงการสหกรณ์เคหสถานปทุมธานีโมเดล จำกัด  เนื้อที่ 30 ไร่เศษ  เป็นที่ดินราชพัสดุ(เดิมเป็นที่ดินสาธารณะ คสช.ใช้มาตรา 44 เพิกถอนเพื่อรองรับชาวบ้านที่ต้องรื้อย้ายออกจากพื้นที่ริมคลอง) ตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต  จำนวน 258  ครอบครัว  ปัจจุบันทั้ง 2 โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและประชาชนเข้าอยู่อาศัยแล้ว

This image is not belong to us

โครงการสหกรณ์เคหสถานปทุมธานีโมเดล จำกัด  เนื้อที่ 30 ไร่เศษ  เป็นที่ดินราชพัสดุตรงข้าม  ม.ธรรมศาสตร์รังสิต  จำนวน 258  ครอบครัว 

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า  ปทุมธานีโมเดลคือโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยเพื่อคนยากจนที่บุกรุกที่ดินสาธารณะริมคลองหนึ่ง   และเป็นการสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม  จังหวัดปทุมธานีขอขอบพระคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  รวมทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ที่มาร่วมกันดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยเพื่อคนยากจน 

This image is not belong to us

 นายชัยวัฒน์  ชื่นโกสุม  ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

“โครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยเพื่อคนยากจนที่บุกรุกที่ดินสาธารณะจังหวัดปทุมธานี หรือ ‘ปทุมธานีโมเดล’ เป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาลที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ  โดยตระหนักถึงเป้าหมายของการสร้างความมั่นคงยั่งยืนด้านที่อยู่อาศัย และการคืนคลองสวยน้ำใส  เกิดภูมิทัศน์ที่ดีแก่ประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือในการขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง  รวมถึงประชาชนในพื้นที่  และสร้างที่อยู่อาศัยได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายชัยวัฒน์กล่าว

This image is not belong to us

นายสุพัฒน์  จันทนา  ผู้อำนวยการภาคกรุงเทพฯ พอช.

นายสุพัฒน์  จันทนา  ผู้อำนวยการภาคกรุงเทพฯ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ ‘พอช.’ กล่าวว่า โครงการปทุมธานีโมเดลเป็นการแก้ปัญหาการปลูกบ้านรุกล้ำลำคลองสาธารณะ  โดย พอช.ดำเนินการร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาและจัดสร้างบ้านมั่นคงรองรับชาวบ้านริมคลอง  รวม 16 ชุมชน จำนวน 1,433 ครัวเรือน  โดย พอช. ดำเนินการจัดทำโครงการบ้านมั่นคง 2 โครงการ  คือ 1.ชุมชนแก้วนิมิตร  จัดซื้อที่ดิน 5 ไร่เศษ ไม่ไกลจากชุมชนเดิม  ก่อสร้างบ้านใหม่จำนวน 100 ครัวเรือน  และ 2.โครงการสหกรณ์เคหสถานปทุมธานีโมเดล จำกัด ในที่ดินราชพัสดุบริเวณคลองเชียงรากใหญ่  ตรงข้าม  ม.ธรรมศาสตร์รังสิต  เนื้อที่  30 ไร่  รองรับประชาชน 258 ครัวเรือน

นายนรายุทธ เขียนจัตุรัส เลขานุการสหกรณ์บ้านมั่นคงไทยมุสลิมสามัคคี จำกัด  กล่าวว่า เดิมชาวบ้านอาศัยอยู่ที่ชุมชนแก้วนิมิตร  ริมคลองหนึ่ง ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม  ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป เมื่อรัฐบาลมีโครงการแก้ไขปัญหาชุมชนที่รุกล้ำลำคลองสาธารณะในจังหวัดปทุมธานี  โดยเฉพาะในบริเวณริมคลองหนึ่ง ชุมชนแก้วนิมิตรเป็นชุมชนแรกที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ‘ปทุมธานีโมเดล’ โดยรวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ตั้งแต่ปี 2558   และในเวลาต่อมาได้จัดตั้งเป็นสหกรณ์เคหสถาน ใช้ชื่อว่า ‘สหกรณ์บ้านมั่นคงไทยมุสลิมสามัคคี จำกัด’  มีสมาชิกจำนวน 100 ครัวเรือน จัดซื้อที่ดินแปลงใหม่ขนาด 5 ไร่ 42 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชุมชนเดิมประมาณ 5 กิโลเมตร  และก่อสร้างบ้านใหม่จำนวน 98 หลังคาเรือน (100 ครอบครัว) แล้วเสร็จ  และชาวบ้านเข้าอยู่อาศัยตั้งแต่ปี 2560

This image is not belong to us

ผู้ว่า จ.ปทุมธานีกับชาวชุมชนไทยมุสลิมฯ

ส่วนแบบบ้านมีทั้งหมด 3 แบบ คือ 1.บ้านแฝดสองชั้น ขนาด 56 ตารางเมตร  2. บ้านแฝดสองชั้น ขนาด 63 ตารางเมตร และ 3. บ้านแฝดสองชั้น ขนาด 77 ตารางเมตร   ราคาก่อสร้างพร้อมที่ดินต่อหลังประมาณ 272,000 – 295,000 บาท ระยะเวลาผ่อนส่ง 15 ปี  อัตราผ่อนส่งเดือนละ 2,500 – 3,000 บาท

นายไพศาล ฉิมช้าง ที่ปรึกษาสหกรณ์เคหสถานปทุมธานีโมเดล จำกัด  กล่าวว่า  การสร้างบ้านมั่นคงในพื้นที่ 30 ไร่ในที่ดินราชพัสดุ (ตรงข้าม ม.ธรรมศาสตร์รังสิต) ได้รับสัญญาเช่าจากกรมธนารักษ์  ระยะเวลา 30 ปี   โดยชาวบ้านได้ร่วมกันจัดตั้งสหกรณ์เคหสถานฯ ขึ้นมา  มีชาวบ้านจาก 13 ชุมชนเข้าร่วมโครงการ  จำนวน 258 ครัวเรือน  เป็นอาคารสูง 3  ชั้น  เนื้อที่ ห้องละ 26 ตารางเมตร จนถึง 45 ตารางเมตรตามขนาดของครอบครัว  และบ้านแฝด 2 ชั้น   เริ่มก่อสร้างบ้านในปี 2559 ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว  1 อาคาร  จำนวน 23 ห้อง  มีชาวบ้านเข้าอยู่อาศัยแล้ว  ส่วนที่เหลือตามแผนงานจะแล้วเสร็จทั้งหมดในช่วงกลางปีนี้

This image is not belong to us

ชุมชนสหกรณ์เคหสถานปทุมธานีโมเดลฯ ก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 อาคาร

This image is not belong to us

สภาพชุมชนเดิมที่รุกล้ำคลองหนึ่ง

Tags: newsข่าวจังหวัดน่าน
Previous Post

คลัสเตอร์ใหม่ “โรงชำแหละหมู” ปทุมธานีติด COVID-19 อีก 53 คน

Next Post

หลบหนียังไงก็ไม่พ้น ถูกจับตามหมายศาลแถมได้ของผิดกฎหมาย

น่าน

น่าน

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

Next Post

หลบหนียังไงก็ไม่พ้น ถูกจับตามหมายศาลแถมได้ของผิดกฎหมาย

บทความ แนะนำ

เปิดคลังภูมิปัญญาสล่า“พุทธศิลป์วัดแสงดาว”ศูนย์เรียนรู้เชิงช่างพื้นถิ่นภูเพียงสู่พื้นที่สร้างสรรค์น่าน

“หมอชลน่าน”ยันร่าง MOU พรรคก้าวไกล ไม่มีเงื่อนไข ม.112-“เพื่อไทย”ไม่เอานิรโทษกรรม

คนอุบลฯ โวยมีชื่อเลือกตั้งนอกเขตไกลจากอีสานโผล่ทั้งภาคเหนือและภาคใต้

‘น่านบันดาลใจ’จริง!อพท.นำเครือข่ายยกระดับหัตถกรรม-ศิลปะพื้นบ้านน่าน ปั้นเมืองสร้างสรรค์ชงยูเนสโกปีนี้

“น่าน” ผนึกเครือข่าย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “กำแพงเมืองเก่า-คูเมืองน่าน”ต่อเนื่อง เชื่อมประวัติศาสตร์กับวิถีคนน่าน บันดาลไอเดียหนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวยั่งยืน

‘เพื่อไทย”จ่อเปิดเวทีใหญ่บางระกำซ้ำ 30 เมษาฯนี้ ‘สมศักดิ์’ลั่น พท.แลนด์สไลด์ สร้างงานทันควัน-เงินดิจิทัลแก้เศรษฐกิจฉับพลัน

“ธรรมนัส” ลั่น! 8 จว.ภาคเหนือ “พลังประชารัฐ” ได้เก้าอี้ ส.ส.ทุกจังหวัดแน่

“เศรษฐา” ควง “โอ๊ค” ลงพื้นที่แม่กลอง ขอพรหลวงบ้านแหลม พร้อมช่วยลูกพรรคหาเสียง

“ชัยเกษม”แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย วูบ ต้องนำส่ง รพ.ระหว่างหาเสียงเมืองน่าน เตรียมส่งรักษา กทม.พรุ่งนี้

สุดเศร้า! อดีต ส.อบต.ร่วมทีมอาสาดับไฟป่า เจอลมแรงหัวไฟเปลี่ยนทิศโดนคลอกดับ

เชียงใหม่เผชิญวิกฤตฝุ่นควันต่อเนื่อง-ค่ามลพิษอากาศพุ่งยึดแน่นอันดับ 1 เมืองหลักอากาศเลวร้ายที่สุดโลก

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และมูลนิธิพุทธรักษา มอบวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือป้องกัน-ดับไฟป่า

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนส่งทางรถไฟ รถไฟฟ้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตเส้นไหม การผลิตและบรรจุยา การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การหีบฝ้าย ปั่นนุ่น การเคลือบ ชุบ อาบขัดโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ น่าน บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.น่าน เขต 1 สพป.น่าน เขต 2 สพม.เขต 37 สมาคม หน่วยงานราชการ อบจ. อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา น่าน



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!