7 เม.ย.64 – นายมงคล ไชยภักดี นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าหน่วยฯ พญาเสือ เปิดเผยว่า หน่วยพญาเสือฯ ได้รับการแจ้งจาก หน.สปป.3 ภาคเหนือว่า มีการลักลอบทำไม้มีค่าหายาก ในเขตป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ ในพื้นที่ จ.แพร่ และ จ.น่าน และนำมาสวมเป็นไม้มีเอกสารสิทธิ์ (ไม้มาตรา 7) คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสะกดรอย ติดตามไม้ประดู่ท่อน ที่ได้ทำการติดตั้งเครื่องติดตามด้วยระบบ GPSไว้ก่อนหน้า จนพบว่า ได้เคลื่อนย้ายไม้ออกจากป่า ไปรวบรวมไม้ไว้ที่โกดังแห่งหนึ่ง ใน อ.สูงเม่น จ.แพร่ ต่อมา เครื่องติดตามด้วยระบบ GPS ปรากฎที่พิกัด 17.525243, 103.017666 ตรวจสอบพบว่า มีการเคลื่อนย้ายไม้จากโกดัง ไปยังบริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จ.อุดรธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชา และประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ
ทั้งนี้นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนยุทธการ ด้านป้องกันและปราบปราม นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยฯ พญาเสือพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย จนท.หน่วยพญาเสือ ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม, สปป.2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), สบอ.10 (อุดรธานี)) จนท. ชุดพยัคฆ์ไพร, ศปป.2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ศูนย์ป่าไม้อุดรธานี, หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้บ้านดุง, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อด.6 (หนองแสง) จนท.ฝ่ายปกครอง อ.พิบูลย์รักษ์ ทหารกอ.รมน. จ.อุดรธานี ตำรวจสันติบาลอุดรธานี, ตำรวจ สภ.พิบูลย์รักษ์, ตำรวจ บก.ปทส.
โดยกำลังจนท.เดินทางนำหมายค้น ศาลจังหวัดอุดรธานี เข้าตรวจสอบบริษัท อาร์ทีเอ็น วู้ด จำกัด โดยมีนางรัตนา (สงวนนามสกุล) เป็นผู้นำตรวจสอบ และให้ข้อมูลพบไม้ประดู่ท่อน 75 ท่อน ปริมาตร 39.304 ลบ.ม. ไม้ประดู่แปรรูป 142 เหลี่ยม ปริมาตร 29.710 ลบ.ม. รวมมูลค่าความเสียหาย 3,455,340 บาท โดยนางรัตนา อ้างว่าไม้ทั้งหมดมีเอกสารหลักฐานถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการยึดไม้ทั้งหมดไว้ เพื่อตรวจสอบหลักฐานการได้มา ของไม้ตามกฎหมาย
ขณะเดียวกันพบว่า โรงงานดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยใช้เครื่องจักรตามกฎหมายแต่อย่างใด การกระทำของนางรัตนาเป็นความผิดฐาน “ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่” และฐาน “ มี ผลิต หรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” จึงได้ตรวจยึดเครื่องจักร จำนวน 5 รายการ พร้อมควบคุมตัวนางรัตนาฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พิบูลย์รักษ์ โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กล่าวโทษดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
