บิ๊กตู่ประกาศสู้จนตาย เพื่อประชาชน อุบสมัครสมาชิกพปชร. รองโฆษกรัฐบาลขอบคุณ 79 ผู้นำสหภาพแรงงานฯ หนุน ลุงตู่ นั่งนายกฯต่อ สะท้อนความพอใจผลงานบริหาร “ชนะศักดิ์” ซัด”หมอชลน่าน” เสี้ยมให้ “3 ป.” แตกคอ เย้ยระวังไม่มีชื่อติดแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย “ชัยวุฒิ” บอกยังตอบไม่ได้ ปม”พท.”จับมือ”พปชร.” แต่ต้องไร้ชื่อ”บิ๊กตู่” ให้รอดูเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.65 เวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้ปฏิบัติภารกิจ โดยเดินทางลงพื้น ที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พร้อมลงเรือท้องแบน ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์เดินพบปะทักทายชาวบ้านได้มีเด็กหญิงลุยน้ำมากับครอบครัว ถือป้ายเขียนข้อความ “ลุงตู่สู้ๆ” และตะโกน ” หนูรักลุงตู่ ” ขณะที่นายกฯ ได้ตะโกนตอบทักทาย ว่า สู้จนตาย
จากนั้นช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางไปยังวัดพิกุลทอง โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐต้องการให้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตอบเพียงสั้นๆ ว่า น้ำท่วมไม่ท่วม มาจากไหน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีผู้นำสหภาพแรงงานยานยนต์ 79 แห่ง แถลงจุดยืนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไป ว่า ขอบคุณพี่น้องผู้นำสหภาพแรงงานยานยนต์ที่แสดงเจตนารมณ์ดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกภาพของบรรดาผู้นำสหภาพแรงงานยานยนต์เช่นนี้ สะท้อนความพอใจผลงานการขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ ในการดูแลด้านแรงงานที่ผ่านมาของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต ให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงและเทคโนโลยีใหม่ ที่สำคัญคือมาตรการมาตรการที่เข้าไปช่วยเหลือประคับประคองพี่น้องแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด- 19 ที่ผ่านมาได้อย่างดี
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในขณะที่แนวโน้มสถานการณ์การว่างงานไตรมาส 2 ปี 65 ลดลงต่ำที่สุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.37 ลดลง 3 ไตรมาสติดต่อกัน เป็นตัวชี้วัดสำคัญของประสิทธิภาพและประสิทธิผลของนโยบายรัฐบาลด้านแรงงานที่เข้าถึงปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องแรงงาน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้พี่น้องประชาชนสนับสนุนและชื่นชมนายกฯ ให้ทำหน้าที่ต่อไป
ที่ผ่านมาต้องขอยกย่องหัวใจพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่ให้ความร่วมมือในมาตรการต่างๆ นับจากนี้สถานการณ์แรงงานที่มีแนวโน้มดีขึ้น การลงทุนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ก็กำลังเพิ่มขึ้น ตรงนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องแรงงานให้ดีขึ้นต่อไปในทุกด้าน น.ส.ทิพานัน กล่าว
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยื่นเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลโดยยืนยันจะต้องไม่มีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ว่า เรื่องอย่างนี้ยังตอบไม่ได้ และคิดว่าเรื่องนี้ยังเร็วไปที่จะพูดคุยในเรื่องของการจับมือร่วมรัฐบาล คงต้องรอเลือกตั้งก่อนแล้วดูเสียงส.ส. ในสภาฯ พร้อมกับดูบรรยากาศการเมืองและนโยบายของแต่ละพรรคด้วย
โดยหลักการของพรรค เน้นการทำงานเพื่อประชาชนอยู่แล้ว และจะทำตามนโยบายต่างๆ ที่เราคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเรื่องอะไรที่สร้างปัญหาให้กับประชาชน และสร้างความแตกแยกเราจะไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ตรงนี้ถือเป็นนโยบายหลักของเรา ส่วนที่ว่าจะไปผูกพัน กับใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ ผมคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะคุยกันในตอนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามเงื่อนไขถือว่าเรารับได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่จะมารับหรือไม่รับ รอให้ถึงเวลาเลือกตั้งแล้วค่อยมาพูดคุยกันอีกทีจะดีกว่า แต่ถ้าเราเป็นพรรคใหญ่โอกาสที่จะมาจับมือร่วมรัฐบาลคงเป็นไปได้ยาก เพราะการเมืองต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุล เมื่อถามว่า แสดงว่าตอนนี้พรรคพลังประชารัฐมั่นใจว่าจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้า นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็ต้องเป็นสิ
นายชัยวุฒิ กล่าวถึงส.ส.ย้ายพรรคกันจำนวนมากรวมถึงการดูดส.ส.เข้าร่วมจากพรรคต่างๆ ว่า เรื่องส.ส.ย้ายพรรคเป็นเรื่องธรรมดาของการเลือกตั้งทุกครั้ง จะมีการย้ายพรรคเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของนักการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนแต่สำหรับพรรคการเมือง เราเชื่อว่าจะมีคนใหม่เข้ามาเสริมอีกในหลายพื้นที่ วันนี้เกือบทุกเขตมีผู้สมัครครบหมดแล้ว ซึ่งบางที่ยังตัดสินใจไม่ได้เพราะมีผู้สมัครหลายคนที่ต้องเลือกคิดว่าจำนวนส.ส.ไม่ใช่ปัญหา คงไม่ได้น้อยกว่าเดิม แต่สำคัญที่สุดเราต้องพยายามทำแคมเปญเลือกตั้งออกหาเสียงและทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากที่สุด โดยให้ส.ส.มีบทบาทในพื้นที่เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุดนี่คือสิ่งที่เราต้องทำต่อไป
เมื่อถามอีกว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความชัดเจนว่าจะอยู่พรรคพลังประชารัฐต่อไปหรือไม่ จะเป็นจุดอ่อนกับพรรคหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่าอย่าใช้คำว่าไม่ชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ท่านเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่เสนอชื่อโดยพรรคและวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีแคนดิเดตนายกฯ เป็นใครบ้างเรียนตรงๆว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะสรุปในตอนนี้ เพราะเรายังดูอยู่ว่าจะเป็นอย่างไรบ้างในทางการเมือง และเมื่อถึงเวลาสมัครแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็สมัครพร้อมส.ส. ซึ่งยังมีเวลา ตนคิดว่าตอนนี้ก็เตรียมคนไปเรื่อยๆ
เมื่อถามย้ำว่า ใกล้เลือกตั้งแล้วคิดว่ากระแสพรรคพลังประชารัฐยังเหมือนเดิมหรือไม่ ในขณะที่ดูเหมือนจะมีปัญหาความแตกแยกภายใน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า อย่างที่ตนบอก มันไม่ได้มีความแตกแยกหรือทะเลาะกันถึงขั้นออกจากพรรค เพียงแต่การที่มีคนย้ายพรรคหรือเปลี่ยนพรรคถือเป็นเรื่องปกติทางการเมืองอาจจะเป็นเรื่องของพื้นที่หรือนโยบายบางอย่าง ที่เขาเห็นว่าเหมาะสม และอยากจะไปทำงานกับพรรคการเมืองอื่นซึ่งตน เห็นว่าไม่ใช่ความแตกแยก
ส.ส.หนีตายจากพรรคอื่นมาอยู่กับเราก็มี ซึ่งแล้วแต่มุมมอง ทางการเมืองซึ่งแต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกันไป สุดท้ายอยู่ที่ประชาชนในตอนเลือกตั้งว่ามีความคิดอย่างไร ซึ่งจากการที่พรรคพปชร.ทำโพลสอบถามความคิดเห็นจากประชาชน หลายพื้นที่คะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรี และของพปชร. ยังดีอยู่ ไม่ได้ตก เชื่อว่าแม้ส.ส.จะย้ายพรรคไป แต่คนก็ยังเลือกพปชร.เหมือนเดิม
เมื่อถามว่า คิดว่าจุดขายของพรรคในตอนนี้คืออะไร นายชัยวุฒิกล่าวว่า จุดขายเราเป็นรัฐบาลเป็นพรรคที่มีความพร้อมในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนและเป็นพรรคใหญ่ที่มีแรงสนับสนุนในการทำงานให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่ในพื้นที่ และที่สำคัญเรามีผลงานหลายอย่างและนโยบายหลายอย่างสามารถนำไปหาเสียงได้ ซึ่งประชาชนยอมรับว่านี่คือผลงานของรัฐบาล และทำมาหลายเรื่องมากเพียงแต่ว่าช่วงนี้ยังไม่ได้ทำแคมเปญหาเสียงเต็มที่ เพราะยังติดเรื่องโควิด-19 น้ำท่วมและปัญหาต่างๆเยอะ จึงยังไม่อยากรณรงค์หาเสียงในตอนนี้ เน้นการทำงานไปก่อน
เชื่อว่าสุดท้ายประชาชนจะเห็นผลงานของรัฐบาล เห็นความมั่นคงความสงบสุขความอยู่ดีกินดีของประชาชนที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องมองเทียบกับประเทศอื่นๆด้วยเรายังมีตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศในภูมิภาคนี้ เราไม่แพ้ใครทั้งเรื่องการท่องเที่ยวการฟื้นตัว ทางเศรษฐกิจการลงทุนต่างๆ ดังนั้นอยากให้มองและให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะอย่าไปดูกระแสจากโซเชียลมีเดียมาก ซึ่งบางทีก็ปั่นมาจากต่างประเทศและจากผู้ไม่หวังดีก็เยอะ
นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์แนวความคิดของพรรคพลังประชารัฐ ว่าเรื่อง”หมดที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม” ว่า พรรคการเมืองของแต่ละพรรคมีจุดยืน อุดมการณ์ ต่างกัน ใครจะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็เป็นสิทธิของพรรคการเมืองนั้น นพ.ชลน่าน ก็ไม่ควรจะออกมาวิจารณ์โจมตี ควรกวาดบ้านตัวเองก่อนดีไหม แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย จะมีชื่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ติดโผกับเขาด้วยหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
“เพราะสภาพของหมอชลน่าน ที่กุมเป้าโค้งหัวคำนับให้ลูกสาวเจ้าของพรรค ตนเองเห็นแล้วน่าเวทนา สภาพไม่ต่างจากไพร่พลแบกหามเสลี่ยงให้นายนั่ง ไม่ได้สะท้อนภาพความเป็นแม่ทัพ ในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด”
นายชนะศักดิ์ กล่าวต่อว่า หมอชลน่านไม่ต้องมาเสี้ยมให้ พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.ประยุทธ์ แตกคอกัน ตนยืนยันว่า 3 ป. ยังกลมเกลียวรักใคร่กันดี และยืนยันว่าท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจและเข้าถึงปัญหาความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี และตลอดระยะเวลาการเป็นนายกฯ มีนโยบายแก้ไขความทุกข์ยากให้พี่น้องประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ผลงานชัดเจนมากมายกว่าในยุคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลอีกเพราะไม่มีผู้นำที่คิดโกงบ้านโกงเมืองจนร่ำรวย
“ไม่เหมือนเจ้าของพรรคบางคน ที่วันๆคิดอยากจะกลับมามีอำนาจ เพื่อให้ตัวเองได้กลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุก หาได้ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด” นายชนะศักดิ์ กล่าว
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดของพรรค ในการเตรียมการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งว่า ในส่วนของพรรคเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในส่วนของนโยบายพรรคที่มีการเพิ่มเติมปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับสภาพของสังคม เศรษฐกิจ การเมืองในปัจจุบัน รวมถึงนโยบายที่ดีที่ได้ทำสำเร็จมาแล้วมากมายก็จะสานต่อเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้น เชื่อว่านโยบายที่จะประกาศในการเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะให้ความสนใจเป็นอย่างมากแน่นอน
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของว่าที่ผู้สมัครรับเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคได้เตรียมบุคลากรไว้เกือบครบทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง ยังมีอีกบางเขตที่มีผู้สนใจสมัครหลายคนก็จะมีกระบวนการขั้นตอนของพรรคในการคัดเลือกตัวผู้สมัครก็เป็นไปตามกระบวนการข้อบังคับและกฎหมายพรรคการเมือง มั่นใจว่าจะมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่มีความรู้ ความสามารถครบทุกเขตอย่างแน่นอน
นายราเมศ กล่าวอีกว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้ย้ำกับสมาชิกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาชั่วครั้งชั่วคราวแต่ พรรคเป็นสถาบันทางการเมือง การทำงานที่ได้รับมอบหมายในทุกหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็ทำงานเต็มที่บนพื้นฐานความซื่อสัตย์สุจริต ผลการทำงานที่เป็นประจักษ์ว่าความสำเร็จในแต่ละนโยบายเกิดขึ้นเพื่อความยั่งยืนของประชาชนและประเทศ ประชาชนจะทราบดี และเชื่อว่าสิ่งสำคัญเหล่านี้จะส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน
นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า รวมไปถึงการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ หัวหน้าพรรคเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หาเสียงบนพื้นฐานสุจริต ขณะนี้ในทุกส่วนของพรรคก็ได้เตรียมการเพื่อรองรับการเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบ ในส่วนของคณะกรรมการสรรหาคัดเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส. ที่มีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ มีการประชุมเพื่อเตรียมพร้อมรองรับตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ในการคัดเลือกผู้สมัคร ในส่วนของคณะกรรมการกฎหมายของพรรค ขณะนี้ได้เร่งทำความเข้าใจให้ความรู้ในเรื่องหลักกฎหมาย กฎ ระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องให้กับสมาชิก สาขา ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจให้มากที่สุด และเพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งด้วยความสุจริตต่อไป

