นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล อัด “หมอชลน่าน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปกติใจละมุน แต่สงสัยถูกเงาดำทับร่าง ยัน เสถียรภาพรัฐบาลยังแน่น ปัด ไม่มีน้ำยา ชอบกินน้ำพริก
วันที่ 20 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสภาล่ม 2 ครั้ง ใน 1 สัปดาห์ ว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. เป็นความขัดข้องทางเทคนิคนิดหน่อย แต่วันที่ 17 ธ.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภา เพิ่มวาระการประชุมสภาผลักดันเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วให้รัฐบาล โดยเรียกตนพบและหารือ ตนและพรรคร่วมไม่ขัดข้อง แต่เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม แต่นายชวน ระบุว่า ไม่ต้องกังวล เนื่องจากเป็นเรื่องของสภา และให้ตนไปพูดคุยกับฝ่ายค้าน ตอนพูดกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ระบุยินดี และเห็นด้วยที่จะประชุมผลักดัน เรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ให้รัฐบาลนำไปปฏิบัติ ตนก็ได้ยินดีและขอบคุณ นพ.ชลน่าน จึงได้มีการเริ่มดำเนินการประชุม ดังนั้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มันเกิดอะไรขึ้นไม่ทราบ ทางรัฐบาลก็มาตั้ง 200 กว่า ฝ่ายค้านก็มีแค่ 14 เสียง ส่วนเรื่ององค์ประชุมขอไม่เถียง มันเป็นชุดความคิดที่ว่าจะเป็นองค์ประชุมของใคร เป็นของรัฐบาลหรือของใครตนก็ไม่แน่ใจว่าชุดความคิดนี้ถูกต้องหรือไม่ ก็ไม่ทราบว่ามันมีเงาของใครทอดยาวมาถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า เพราะปกติ นพ.ชลน่าน เป็นคนจิตใจละมุน เป็นแพทย์สูตินรีเวช ต้องมีความละเอียดอ่อน แต่ไม่ทราบว่ามีเงาของใครทอดยาวมาทับร่างเข้าทรง นพ.ชลน่าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะทำงานร่วมฝ่ายค้านลำบาก ในการประสานงานกันหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า นพ.ชลน่าน แถลงข่าวแล้ว ซึ่งคงนึกได้ว่าวันก่อนนั้นพูดคุยกับตนไว้อย่างไร ซึ่งในวันศุกร์ถัดไป นพ.ชลน่าน จะทำงานร่วมกันด้วยดี เมื่อถามว่า สภาล่มอย่างนี้จะทำให้เกิดปัญหาถึงขั้นยุบสภาหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า หากพูดเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลของฝ่ายบริหารยังมีอยู่ เพราะต้องแยกอำนาจ 3 ฝ่าย ซึ่งที่จะมีปัญหา คือ สภานิติบัญญัติ ที่เป็นบ้านของ ส.ส.ทุกคน จึงไม่แน่ใจว่า นพ.ชลน่าน คิดถูกหรือผิดที่พูดอย่างนั้น
เมื่อถามว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของนายนิโรธว่า ไร้น้ำยา นายนิโรธ กล่าวว่า “บางคนอาจบอกว่าผมไม่มีน้ำยา ทำไมจึงรู้ว่า ผมไม่ชอบกินขนมจีนน้ำยา แต่ชอบกินขนมจีนน้ำพริก ซึ่งผมก็ได้ดูนักวิชาการรายหนึ่งจัดรายการและวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว แล้วเห็นว่าวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเศรษฐกิจได้ดี แต่พอมาวิจารณ์เรื่องการเมืองผมว่าปากท่านจัดจ้านไปหน่อย”

