วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2025
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • แผนผังเว็บไซท์
  • Login
น่าน
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
น่าน
No Result
View All Result
Home ข่าว

นับถอยหลังปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ เปิดมุมมองจากสภาถึงชาวไร่ ‘อัตราเดียวคือคำตอบ

น่าน by น่าน
5 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 1min read
158
0
100
SHARES
199
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

This image is not belong to us

ท่ามกลางปัญหาด้านปากท้องที่รัฐผุดโครงการต่างๆ เยียวยาผู้รับได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่หลงลืมไม่ได้ นั่นคือการที่รัฐบาลเตรียมประกาศโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่แบบใหม่ออกมาก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตกำลังเร่งดำเนินการ

บรรดาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยาสูบ ทั้งเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ การยาสูบแห่งประเทศไทย ตลอดจนร้านค้าและตัวแทนจำหน่าย ต่างร่วมลุ้นกันว่ารายได้จากการประกอบอาชีพจะพอเลี้ยงปากท้องได้หรือไม่ โดยเมื่อย้อนอดีตไปตั้งแต่การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบเมื่อเดือนกันยายน 2560 จนถึงปัจจุบัน ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในอุตสาหกรรมยาสูบจนต้องหยิบยกมาพิจารณาอย่างจริงจัง

3 ปีป่วนถ้วนหน้า ไร่ อุตสาหกรรม ร้านค้า ยอดขายลด กำไรร่อยหรอ

นับแต่มีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งเปลี่ยนมาเก็บภาษีในอัตรา 2 ขั้นคือ อัตราตามมูลค่า 20% หากราคาขายปลีกไม่เกิน 60 บาท และอัตราตามมูลค่า 40% หากราคาขายปลีกเกิน 60 บาท นอกจากนี้ยังมีอัตราตามปริมาณอีกมวนละ 1.2 บาท สำหรับบุหรี่ทุกราคา ทำให้บุหรี่ยี่ห้อขายดีของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ต้องขึ้นราคาตามภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นสูงมากเป็นประวัติการณ์ และต้องเจอกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากบุหรี่นำเข้าบางยี่ห้อที่หนีตายลดราคาลงมาอยู่ที่ราคา 60 บาท เพื่อไม่ต้องโดนภาษีขั้นสูง การแข่งขันจึงมะรุมมะตุ้มกันอยู่ที่ราคาบุหรี่ไม่เกินซองละ 60 บาทกันเกือบทั้งตลาด

จากการแข่งขันราคาในตลาดบุหรี่ระดับล่างอย่างดุเดือด ทำให้การยาสูบฯเองมียอดขายบุหรี่ในประเทศลดลงอย่างน่าใจหาย จากที่เคยขายได้เกือบ 29,000 ล้านมวนเมื่อปี 2560 ก่อนปรับภาษี เหลือเพียง 18,000 ล้านมวนเศษๆ ในปี 2562 กำไรสุทธิก็ร่อยหรอจากปี 2560 เคยได้ถึง 9,343 ล้านบาท ลดลงเหลือเพียง 513 ล้านบาทในปี 2562 โครงสร้างองค์กรยังมีความเป็นรัฐวิสาหกิจ การบริหารจัดการไม่มีคล่องตัวเหมือนบริษัทเอกชน ทำให้การปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจและความสามารถในการแข่งขันในยุคใหม่ทำได้ลำบาก แม้ว่าจะแปลงสภาพเป็นนิติบุคคลแล้วตั้งแต่ปี 2561 ก็ตาม

ผลจากการใช้โครงสร้างภาษีดังกล่าวก่อให้เกิดความปั่นป่วนในอุตสาหกรรมยาสูบและสร้างความเดือดร้อนให้ชาวไร่ยาสูบ ตลอดจนร้านค้าที่จำหน่ายยาสูบ และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมาตลอด นับแต่เริ่มประกาศใช้จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 3 ปีแล้วที่เกษตรชาวไร่ยาสูบซึ่งเป็นลูกไร่ของ ยสท.ก็พลอยเดือดร้อนหนักต้องถูกตัดโควต้าไปเกือบ 50% ตั้งแต่ปี 2561, 2562 และ 2563 ติดต่อกัน โดยได้รับเงินชดเชยรายได้จากรัฐบาลในปีแรกเพียงปีเดียว

หันสูบยาเส้น บุหรี่เถื่อน บุหรี่นอกชิงส่วนแบ่งการตลาด

ประเด็นนี้ถือว่าได้รับความสนใจจากบรรดา ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะ ส.ส.ที่มาจากจังหวัดพื้นที่ปลูกยาสูบ โดยเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้หารือเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาใบยาสูบตกต่ำ โดยมี อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง และมี ส.ส.จากจังหวัดที่ปลูกยาสูบหลายคนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ได้แก่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จังหวัดน่าน, ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.จังหวัดแพร่ และ นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.จังหวัดเชียงราย เป็นต้น

ในการประชุมดังกล่าว บรรดา ส.ส.รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเห็นตรงกันว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวไร่ยาสูบนั้นสาเหตุมาจากระบบภาษีสรรพสามิตบุหรี่ โดย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐได้กล่าวในที่ประชุมว่า

“ทำไมรัฐจึงไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ นั่นคือทำให้ ยสท.แข่งขันได้ตามปกติ จะใช้อัตราไหน 20% 30% หรือ 40% ก็ให้เท่ากัน ถ้าใช้อัตราภาษีเดียวกันเชื่อว่าตลาดยาสูบจะกลับมาสู่ชาวไร่อีกครั้งหนึ่ง”

ย้อนไปก่อนหน้านั้น ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 5 ก.พ.2564 เคยมีการอภิปราย 4 ญัตติที่เสนอในเรื่องเกี่ยวกับปัญหาจากโครงสร้างภาษียาสูบโดยมิได้นัดหมาย

ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายว่า ผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีทำให้บุหรี่แพงขึ้นอย่างก้าวกระโดด กดดันให้ผู้บริโภคหันไปหาสินค้าทดแทนที่มีราคาต่ำกว่า เช่น ยาเส้น หรือบุหรี่เถื่อน และเงื่อนไขที่ทำให้บุหรี่ระดับล่างมีภาระภาษีที่น้อยกว่า ประกอบกับความไม่รัดกุมของข้อกฎหมายจึงทำให้บุหรี่ต่างชาติใช้วิธีการลดราคาเพื่อแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรงแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของบุหรี่ตลาดล่างซึ่งเดิมเคยเป็นของ ยสท.

“ปัญหาอยู่ที่การเก็บภาษีตามมูลค่า เพราะรัฐเก็บเป็น 2 อัตรา แทนที่จะเก็บภาษีอัตราเดียวตามหลักสากลตั้งแต่แรก” ณธีภัสร์ระบุ

ขณะที่ นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ก็มีความเห็นตรงกันว่าโครงสร้างภาษีแบบ 2 อัตราเป็นตัวปัญหา จึงเสนอว่า “ควรปรับเป็นอัตราเดียวกันหมด เพื่อที่คนจะได้ไม่ไปเลือกลดราคามาแข่งกันในราคา 60 บาท”

‘ภาษีอัตราเดียว’คือทางออก สอดคล้องหลักสากล

สำหรับมุมมองของฝั่งเกษตรกรตัวจริง กิตติทัศน์ ผาทอง ผู้ประสานงานภาคีชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย ซึ่งได้เข้าร่วมการประชุมกับคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า อยากให้รัฐแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

“รู้สึกดีใจที่รัฐมนตรีและ ส.ส.หลายๆ ท่านต่างเห็นตรงกันในเรื่องนี้ ดังนั้น การปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ครั้งใหม่นี้ไม่ควรจะสร้างความผิดพลาดเหมือนครั้งก่อน ที่อยู่ดีๆ ก็เริ่มใช้อัตราภาษีแบบ 2 ขั้น ทั้งที่เมื่อก่อนก็ใช้อัตราเดียวมาตลอด ไม่เคยมีปัญหา พวกเราไม่เคยเดือดร้อน” กิตติทัศน์กล่าว

โครงสร้างภาษีในปัจจุบันยังสร้างผลลัพธ์ที่สวนทางกับวัตถุประสงค์ของการเก็บภาษีบุหรี่ โดยนักวิชาการด้านการควบคุมยาสูบ ศ.ดร.อิศรา ศานติศาสน์ ประธานมูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย เคยตั้งข้อสงสัยว่าระบบภาษีบุหรี่ปัจจุบันนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ทำให้รัฐได้รับภาษีน้อยลง ขณะที่คนไทยจะสูบบุหรี่มากขึ้น และได้เสนอให้ขึ้นภาษีบุหรี่ที่ราคาขายต่ำกว่า 60 บาท ให้สูงกว่าอัตรา 20% ในปัจจุบัน หรือไม่ก็ยกเลิกเส้นตัดแบ่งอัตราภาษีที่ราคา 60 บาท ให้เหลือเป็นภาษีอัตราเดียวกันทุกยี่ห้อทุกราคา

ในขณะที่นักวิชาการด้านเศรษฐกิจการเมืองอย่าง ศ.ดร.อรรถกฤต ปัจฉิมนันท์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษียาสูบและได้รับทุนวิจัยเกี่ยวกับนโยบายภาษียาเส้นจากศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) เห็นด้วยว่า การใช้ภาษีอัตราเดียวเป็นโครงสร้างที่เหมาะสมที่สุดและเป็นไปตามหลักสากล โดยควรให้ภาษีตามปริมาณมีสัดส่วนมากกว่าภาษีตามมูลค่า เนื่องจากง่ายต่อการจัดเก็บภาษีและมีประสิทธิภาพในการควบคุมการบริโภคมากกว่าภาษีตามมูลค่า และอัตราภาษีควรให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของผู้บริโภคตามสภาพเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังได้เสนอให้รัฐกำหนดแผนการขึ้นภาษียาเส้นควบคู่ไปกับการขึ้นภาษีบุหรี่ด้วย เพื่อให้สามารถควบคุมการบริโภคยาสูบได้มีประสิทธิภาพ ลดพฤติกรรมการบริโภคสินค้าทดแทนบุหรี่ และเพิ่มรายได้รัฐตามมาด้วย

จากข้อมูลและความเห็นข้างต้น สะท้อนว่ามุมมองจากฟากการเมือง ภาคประชาชน และภาควิชาการ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อยู่ที่ว่าผู้ที่รับผิดชอบการปรับโครงสร้างภาษีในกรมสรรพสามิตและกระทรวงการคลังว่าจะรับฟังหรือไม่

Tags: newsข่าวจังหวัดน่าน
Previous Post

กระจายวัคซีน COVID-19 ล็อตแรก 9 จังหวัดเสี่ยงเริ่ม มี.ค.นี้

Next Post

ตำรวจน่านจับ 2 วัยรุ่น สั่งกัญชาอัดแท่ง แบ่งขายเพื่อน นศ.เป็นอาชีพเสริม

น่าน

น่าน

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

Next Post
dFQROr7oWzulq5Fa4VaFWlt5cthPeWUjpj3vIJNmBYi9sYH8JAqeqGYOV3g2zCY5Hlm.jpg

ตำรวจน่านจับ 2 วัยรุ่น สั่งกัญชาอัดแท่ง แบ่งขายเพื่อน นศ.เป็นอาชีพเสริม

บทความ แนะนำ

เปิดคลังภูมิปัญญาสล่า“พุทธศิลป์วัดแสงดาว”ศูนย์เรียนรู้เชิงช่างพื้นถิ่นภูเพียงสู่พื้นที่สร้างสรรค์น่าน

“หมอชลน่าน”ยันร่าง MOU พรรคก้าวไกล ไม่มีเงื่อนไข ม.112-“เพื่อไทย”ไม่เอานิรโทษกรรม

คนอุบลฯ โวยมีชื่อเลือกตั้งนอกเขตไกลจากอีสานโผล่ทั้งภาคเหนือและภาคใต้

‘น่านบันดาลใจ’จริง!อพท.นำเครือข่ายยกระดับหัตถกรรม-ศิลปะพื้นบ้านน่าน ปั้นเมืองสร้างสรรค์ชงยูเนสโกปีนี้

“น่าน” ผนึกเครือข่าย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “กำแพงเมืองเก่า-คูเมืองน่าน”ต่อเนื่อง เชื่อมประวัติศาสตร์กับวิถีคนน่าน บันดาลไอเดียหนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวยั่งยืน

‘เพื่อไทย”จ่อเปิดเวทีใหญ่บางระกำซ้ำ 30 เมษาฯนี้ ‘สมศักดิ์’ลั่น พท.แลนด์สไลด์ สร้างงานทันควัน-เงินดิจิทัลแก้เศรษฐกิจฉับพลัน

“ธรรมนัส” ลั่น! 8 จว.ภาคเหนือ “พลังประชารัฐ” ได้เก้าอี้ ส.ส.ทุกจังหวัดแน่

“เศรษฐา” ควง “โอ๊ค” ลงพื้นที่แม่กลอง ขอพรหลวงบ้านแหลม พร้อมช่วยลูกพรรคหาเสียง

“ชัยเกษม”แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย วูบ ต้องนำส่ง รพ.ระหว่างหาเสียงเมืองน่าน เตรียมส่งรักษา กทม.พรุ่งนี้

สุดเศร้า! อดีต ส.อบต.ร่วมทีมอาสาดับไฟป่า เจอลมแรงหัวไฟเปลี่ยนทิศโดนคลอกดับ

เชียงใหม่เผชิญวิกฤตฝุ่นควันต่อเนื่อง-ค่ามลพิษอากาศพุ่งยึดแน่นอันดับ 1 เมืองหลักอากาศเลวร้ายที่สุดโลก

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และมูลนิธิพุทธรักษา มอบวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือป้องกัน-ดับไฟป่า

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนส่งทางรถไฟ รถไฟฟ้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตเส้นไหม การผลิตและบรรจุยา การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การหีบฝ้าย ปั่นนุ่น การเคลือบ ชุบ อาบขัดโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ น่าน บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.น่าน เขต 1 สพป.น่าน เขต 2 สพม.เขต 37 สมาคม หน่วยงานราชการ อบจ. อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา น่าน



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!