ธุรกิจบริการ เริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังต้องปิดกิจการชั่วคราว กระทบสภาพคล่องอย่างหนัก พร้อมกับคาดหวังว่า สถานการณ์โควิด 19 จะคลี่คลาย และรัฐบาลกลับมาเปิดประเทศได้ตามแผนโรดแมป 120 วัน ได้จริง เพื่อฟื้นธุรกิจได้เร็วขึ้น
บรรยากาศภายในคลีนิกเสริมความงาม ในซอยอารีย์สัมพันธ์ เริ่มกลับมารับลูกค้าตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากถูกสั่งปิดชั่วคราวนาน 2 เดือน แม้จะยังมีลูกค้าเฉลี่ย 8 คนต่อวัน และไม่รับลูกค้า walk in เพื่อไม่ให้แออัด ป้องกันโรคโควิด-19
เจ้าของคลีนิกเสริมความงาม คาดหวังว่ารัฐบาลจะสามารถเปิดประเทศได้ตามแผนโรดแมป 120 วัน แต่ต้องทำควบคู่กับการฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผนจริง เพราะต่างชาติจำนวนมากมักจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย พร้อมกับเข้ามาใช้บริการเสริมความงามด้วย
สมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิง เดินทางเข้ายื่นกับทาง ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 8 ข้อ ในจดหมายเปิดผนึก ต่อนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน และนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล ที่รัฐสภา เมื่อวานนี้(17 มิ.ย.64) โดยระบุว่า “คนกลางคืน” กลายเป็น “คนที่ถูกลืม” มาตลอดครึ่งปี โดยมีผู้เดือดร้อนรวมกว่า 10 ล้านชีวิต ตกงานแบบไร้เงินชดเชยมามากว่า 200 วัน จึงขอให้ยกเลิกคำสั่งปิดแบบเหมารวม ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม
การระบาดของโควิด-19 ทำให้กีฬาหลายประเภทไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ และบางประเภทห้ามไม่ให้คนดูเข้าสนาม เช่นการแข่งขันฟุตบอล หลายสโมสรอยู่ในภาวะขาดสภาพคล่อง ส่งผลต่อรายได้นักเตะ และรายได้ในการขายตั๋วหายไปจำนวนหลักล้านบาทต่อนัด
ส่วนที่อยู่ในขั้นวิกฤตคือวงการมวย ซึ่งไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ กระทบต่อคนวงการนับแสนคนที่ต้องตกงาน ทั้งนักมวย ค่ายมวย และโปรโมเตอร์ แต่ทางรอดของคนวงการนี้ จำเป็นต้องได้รับวัคซีนครบโดสอย่างทั่วถึง

