สิ้นเสียงประทัดยักษ์-ระเบิดปิงปองจากม็อบ คณะราษฎร 2563 ก็เกิดเสียงปลิ้นปล้อนผ่านโซเชียลเนตเวิร์ก จัดฉากสร้างวาทกรรมหวังปลุกเร้าสังคมไทยเชื่อข้อมูลในโลกมายาที่เป็นเท็จ
เมื่อสังคมไทยเกิดความลังเลกับความรุนแรง “สัมภเวสีแดนไกล” ก็ฉกฉวยช่วงเวลานี้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองใช้ความถนัดสร้างวิวาทะลวงโลกหวังปลุกเร้ามวลชนที่งมงายแสดงพลังทางการเมืองเพื่อตนเองและพวกพ้องอีกครั้ง
“สัมภเวสีทักษิณ” ออกมาเห่าหอนสอนเชิงท้าทาย รัฐบาลทหารแก่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) และความวุ่นวายทางการเมืองจากการชุมนุมของม็อบมุ้งมิ้งมะโนสาเร่และกลุ่ม
ปลดแอกต่างๆ อ้างการต่อต้านการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหารคสช. เรียกร้องให้มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจและยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ให้เป็นฉบับประชาชน
“สัมภเวสีทักษิณ” เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา ประกาศสงครามกับความยากจน อ้างว่าตนเองเคยทำจนได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนทั่วประเทศมาแล้ว อดีตผู้นำทุรยศบอกว่า รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเป็นแรงหนึ่งในการกู้วิกฤติเศรษฐกิจ โดยเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างประเทศในเรื่อง นิติรัฐ นิติธรรม ที่เป็นสากล
“สัมภเวสีทักษิณ”ตนนี้เคยให้นิยามประชาชนคนยากจนไว้ว่าเป็น “คนตาบอดที่ไม่กลัวเสือ” หลังจากมีผู้หลักผู้ใหญ่ร่วมอุดมการณ์ติติงตักเตือนว่าการขึ้นทะเบียนคนจนเป็นเรื่องยากหากไม่วางหลักการที่ดี แต่ตลอดระยะเวลาที่มีอำนาจทางการเมืองก็ไม่เคยได้ดำเนินการเรื่องทะเบียนคนจนอย่างเป็นรูปธรรม ลุล่วงเลยมาถึงรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการอย่าง รัฐบาลทหารแก่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา การขึ้นทะเบียนคนจน 14 ล้านราย ก็ประสบความสำเร็จถือบัตรสวัสดิการของรัฐเป็นหลักฐาน ท่ามกลางเสียงโจมตีคัดค้านอ้างลบหลู่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักการเมืองฝ่ายค้าน
แต่ที่อัปยศไปกว่านั้นในการอภิปรายสรุปญัตติอภิปราย
ทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มอบหมายให้นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ทำหน้าที่อภิปรายสรุปเนื้อหาการอภิปรายญัตติดังกล่าวมีช่วงหนึ่งที่เสนอแนะให้ทหารแก่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับเอาคำแนะนำของ “สัมภเวสีทักษิณ”ไปดำเนินการ อย่าแค่ฟังผ่านๆ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน
ในเวลาที่นักการเมืองฝ่ายค้านเสนอแนะแนวทางการ
กอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจอ้างผลประโยชน์ประชาชนในสภาตามวิถีทางประชาธิปไตย เช่นเดียวกับ “สัมภเวสีทักษิณ” ที่สำรอกอยู่ต่างแดนด้วยประโยคเดิมๆ เพื่อประชาชนอันเป็นที่รัก
แต่ขอโทษเถอะเลิกสร้างภาพเลิกพฤติกรรมไก่สามอย่างเถอะ เพราะนักลงทุนต่างชาติจะไม่มาลงทุนประเทศไทยตราบใดที่สังคมไทยยังหาความสงบไม่ได้ ตราบใดที่ยังมีการปลุกติ่งให้ออกมาเคลื่อนไหวโดยอ้างสิทธิเสรีภาพที่ละเมิดและก้าวก่ายสิทธิเสรีภาพคนอื่นๆ ทั้งจากม็อบคณะราษฎร 2563 ทั้งกลุ่มสารพัดปลดแอก ทั้งกลุ่มแนวร่วมนปช. กลุ่มคนเสื้อแดงที่พยายามออกมาฟื้นชีพเคลื่อนไหวอีกครั้งตามคำสั่งตามกำลังทรัพย์ของใครบางคนหรือไม่
มันจึงเป็นไปไม่ได้หรอกนักการเมืองผู้เปรื่องปราชญ์
ศึกนี้ยืดเยื้อเพื่อใคร!?!?!