
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มอบให้ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 2 สำนักเครื่องจักรกล โดยได้จัดส่งเครื่องจักรกลประเภทรถขุดไฮดรอลิค แบบแขนมาตรฐาน จำนวน 1 คัน ของฝ่ายเครื่องจักรกลรถขุดที่ 2 เข้าดำเนินการขุดเปิดทางน้ำในแม่น้ำยมสายเก่า เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำมีความตื้นทำให้ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ของเกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลกกแรด อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย โดยระยะทางขุดเปิดทางน้ำมีความยาวประมาณ 20 เมตร ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเสร็จแล้ว สามารถนำน้ำให้ชาวบ้านหมู่ 6 ได้ใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค

ในวันเดียวกันนี้ นายสุพิศยังได้ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรของฝ่ายเครื่องจักรกลรถขุดที่ 2 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 2 โดยได้จัดส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรกล ประเภทรถขุดไฮดรอลิค แบบแขนมาตรฐาน จำนวน 1 คัน ของ เข้าดำเนินการ ขุดวางท่อส่งน้ำบริเวณคลองท่าโม เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้ง ให้แก่เกษตรกรในหมู่ที่ 8 ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ในเขตพื้นที่ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน ซึ่งดำเนินการโดยฝ่ายเครื่องจักรกลรถขุดที่ 2 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 2 ซึ่งปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ โดยนายสุพิศ ได้เข้าพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าของงานขุดบึงบอระเพ็ด ลักษณะเป็นการขุดลอกทำวังปลา (DEEP POOL) จุดที่ 4 ตำบลแควใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ของโครงการชลประทานนครสวรรค์ ดำเนินการโดย ฝ่ายเครื่องจักรกลก่อสร้างงานดินที่ 2 ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 2 ปัจจุบันดำเนินการได้ 40 % เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะมีพื้นที่กักเก็บน้ำเพิ่มขึ้น 2,150,000 ลูกบาศก์เมตร ช่วยบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ ประมาณ 21,000 ไร่ ช่วยเหลือพื้นที่ภัยแล้ง 85,000 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2564 นี้
ทั้งนี้ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ได้เปิดเผยกรมชลประทานยังได้เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ ไว้ทั้งสิ้น 5,935 หน่วย ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ประกอบไปด้วยเครื่องสูบน้ำ 2,140 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 503 คัน เครื่องจักรสนับสนุนอื่น 3,292 หน่วย เพื่อให้การช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัยแล้งปี 2563/64 ได้อย่างทันท่วงที และลดความเสียหายจากภาวะขาดแคลนน้ำ





