แก้รัฐธรรมนูญ: สภาถกร่าง รธน. ฉบับ “รื้อระบอบประยุทธ์” ส.ว. รุมค้านตามคาด

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ (ขวา) และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ตัวแทนกลุ่มรี-โซลูชัน

ที่มาของภาพ, Facebook/กลุ่ม Re-solution

คำบรรยายภาพ,

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ (ขวา) และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ตัวแทนกลุ่มรี-โซลูชัน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนนำเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนต่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาวันนี้ (16 พ.ย.)

เกือบ 1 ปีเต็มหลังจากรัฐสภามีมติคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่เสนอโดยโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) เมื่อ 18 พ.ย. 2563 ตัวแทนภาคประชาชนมีโอกาสปรากฏตัวต่อที่ประชุมรัฐสภาอีกครั้งในวันนี้ (16 พ.ย.) เพื่อชี้แจงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ “รื้อระบอบประยุทธ์” ที่นำเสนอโดยกลุ่มรี-โซลูชัน และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนกว่า 1.35 แสนรายชื่อ

กลุ่มรี-โซลูชัน เป็นการรวมตัวกันของ 4 องค์กร คือ ไอลอว์ กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ซึ่งเปิดตัวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ “รื้อระบอบประยุทธ์” เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมาและเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภา ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนทางกลุ่มก็สามารถรวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 135,247 รายชื่อ หรือมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่อย่างน้อย 50,000 รายชื่อถึงกว่าเท่าตัว

ประเด็นหลักในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทางกลุ่มรี-โซลูชันเชื่อว่าจะนำไปสู่การรื้อระบอบประยุทธ์ ได้แก่

  • ยกเลิกวุฒิสภาให้เหลือเพียงสภาผู้แทนราษฎรหรือระบ “สภาเดี่ยว”
  • ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ต้องเป็น ส.ส. เท่านั้น
  • รื้อองค์ประกอบขององค์กรอิสระ ได้แก่ ศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้มีที่มาทั้งจากฝ่ายค้านและรัฐบาล จากเดิมที่มาจากการสรรหาและเห็นชอบโดยวุฒิสภา
  • สร้างขั้นตอนถอดถอนตุลาการ
  • เพิ่มอำนาจตรวจสอบให้ฝ่ายค้าน เช่น กำหนดให้ ส.ส.ฝ่ายค้านเป็นประธานคณะกรรมาธิการของสภา ไม่ต่ำกว่า 5 ชุด และเพิ่มกลไกพิเศษของรัฐสภา เช่น คณะผู้ตรวจการกองทัพ คณะผู้ตรวจการศาล และคณะผู้ตรวจการองค์กรอิสระ
  • เลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูป
  • ลบล้างมรดกรัฐประหาร ด้วยการให้ยกเลิกมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่นิรโทษกรรมให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

“เฌอเอม” ชญาธนุส ศรทัตต์ นางงามและนางแบบร่วมกิจกรรมรณรงค์เข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ “รื้อระบอบประยุทธ์” เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2564

หลังจากผ่านการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารตามกระบวนการเข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนก็ถูกบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภาในวันนี้ ซึ่งสมาชิกรัฐสภาใช้เวลาตลอดทั้งวันในการอภิปราย ก่อนจะนัดลงมติว่าจะรับหลักการในวาระที่ 1 หรือไม่ในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ย.)

บีบีซีไทยรวบรวมไฮไลต์การอภิปรายในวันนี้

1. พริษฐ์-ปิยบุตรนำทีมเสนอร่างรัฐธรรมนูญ

การประชุมสภาเริ่มต้นด้วยการให้ตัวแทนผู้เสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับประชาชนสรุปเนื้อหาและชี้แจงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยกลุ่มรี-โซลูชัน ส่งตัวแทน 2 คน คือ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล จากคณะก้าวหน้า เป็นผู้นำเสนอ

นายพริษฐ์ขอให้รัฐสภาเปิดใจ รับหลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งเขาเปรียบเป็นเหมือน “การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อแหล่งผลิตไวรัสที่มีชื่อว่ารัฐธรรมนูญ 2560” และยืนยันว่าเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย

“การปรับเป็นระบบสภาเดี่ยวไม่ได้จะทำลายกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลของรัฐสภา แต่จะทำให้รัฐสภากลับมาเป็นความหวังของประชาชนอีกครั้งในการนำพาความเปลี่ยนแปลง การปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้จะทำลายความเป็นอิสระของระบบตุลาการ แต่จะทำให้ประชาชนกลับมาเชื่อมั่นในความเป็นกลางของศาลอีกครั้ง การปฏิรูปองค์กรอิสระก็ไม่ได้ทำให้ กกต. (คณะกรรมการการเลือกตั้.) หรือ ปปช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) นั้นไร้น้ำยา แต่จะทำให้องค์กรอิสระเหล่านี้มีความกล้าหาญในการตรวจสอบรัฐบาล

“การยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็ไม่ได้จะทำให้ข้าราชการขาดทิศทางในการทำงาน แต่จะทำให้ข้าราชการมีเวลาและยืดหยุ่นมากขึ้นในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การตั้งผู้ตรวจการณ์กองทัพก็ไม่ได้จะทำให้กองทัพขาดเกียรติยศ แต่จะทำให้กองทัพมีโอกาสพิสูจน์กับประชาชนว่าเขาสามารถดำเนินการได้อย่างมืออาชีพโดยไม่ถูกแทรกแซงทางการเมือง

“และถ้าพูดให้ถึงที่สุด แม้กระทั่งการรื้อระบอบประยุทธ์ ก็ไม่ได้จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์หมดอนาคต แต่จะเปิดโอกาสให้เขากลับมาเป็นนายกฯ ได้อย่างสง่าผ่าเผยมากขึ้นถ้าเขาสามารถชนะได้ในการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมจริง” นายพริษฐ์กล่าว

นายปิยบุตรขึ้นชี้แจงเป็นคนต่อมาโดยเน้นถึงความจำเป็นของการปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ รวมถึงการลบล้างผลพวงของคณะรัฐประหาร ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยการเชิญชวนให้สมาชิกรัฐสภารับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่ 1 ไปก่อน

ที่มาของภาพ, Facebook/วิทยุโทรทัศน์รัฐสภา

คำบรรยายภาพ,

กลุ่มผู้เสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนหารือกันระหว่างรอชี้แจง

“หากเพื่อนสมาชิกให้ความเห็นชอบกับร่างฯ ในวาระที่ 1 รายละเอียดปลีกย่อย ความเห็นที่แตกต่างกัน เรายังมีโอกาสในการปรับปรุงแก้ไขในวาระที่ 2 และในท้ายที่สุด ถ้ามันผ่านวาระที่ 3 ไปได้จริง พวกท่านก็ยังมีหนทางไปร้องศาลรัฐธรรมนูญได้อีก และยังต้องไปทำประชามติอีกด้วย…อย่างน้อย ๆ ที่สุด การลงมติรับหลักการวาระที่ 1 นี้ก็เป็นการแสดงออกว่าพวกท่านไม่ได้ปิดประตูใส่พี่น้องประชาชนที่เข้าชื่อเสนอกันมา”

ในช่วงบ่ายและเย็น มีผู้แทนภาคประชาชนอีก 3 คน ที่เข้ามาชี้แจงต่อรัฐสภา คือ นายณัชปกร นามเมือง จากไอลอว์ นายเอกรินทร์ ต่วนศิริ และ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว

นายณัชปรกรยืนยันถึงความจำเป็นในการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของ คสช. หลังจาก ส.ส.รัฐบาลหลายคนแสดงความเห็นคัดค้าน เขาอธิบายว่าประเทศชาติจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ แต่ยุทธศาสตร์ที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ 2560 “เนื้อแท้แล้วไม่ใช่ยุทธศาสตร์ชาติ แต่เป็นยุทธสาสตร์ของ คสช.” ที่มีเฉพาะกลุ่มทหารและกลุ่มทุนเป็นผู้กำหนดแผน

2. ส.ส. ฝ่ายค้านหนุนร่างฯ ตามสัญญา

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นสมาชิกรัฐสภาคนแรกที่ลุกขึ้นอภิปรายคนแรก โดยประกาศสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนตามมติที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่จะรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างเป็นเอกฉันท์ในวาระที่ 1 เนื่องจากเห็นว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ได้สร้างวิกฤตทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม และเชื่อว่าหากที่ประชุมรัฐสภามีมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 1 จะปลดชนวนวิกฤตทางการเมือง พร้อมกับเตือนว่าหากรัฐสภาทำหน้าที่โดยไม่เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน อาจจะนำไปสู่การประท้วงบนท้องถนน

อย่างไรก็ตาม นพ.ชลน่านให้ความเห็นว่ายังไม่ควรยกเลิก ส.ว. ในทันที เพราะ ส.ว. หลายคนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ “เพียงแต่เข้าสู่อำนาจด้วยวิธีการที่ผิด” จึงเห็นว่าควร ให้ ส.ว. อยู่ในอำนาจจนครบวาระ เนื่องจากเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่าน แต่ให้จำกัดหน้าที่ และอำนาจตามความเหมาะสม

หลังจากนั้น ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่น ก้าวไกล เสรีรวมไทย และไทยศรีวิไลย์ ก็ลุกขึ้นมาอภิปรายสนับสนุนร่างฯ และประกาศพร้อมรับหลักการในวาระที่ 1

3. ส.ว. รุมค้านตามคาด อัดปิยบุตร “เนรคุณแผ่นดิน”

ส.ว.หลายคนที่เคยแสดงความเห็นคัดค้านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เช่น นายวันชัย สอนศิริ นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสมชาย แสวงการ พล.อ. เลิศรัตน์ รัตนวานิช นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ลุกขึ้นอภิปรายคัคค้านในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการยกเลิกวุฒิสภาและเปลี่ยนมาใช้ระบบสภาเดี่ยว

ส.ว.กลุ่มนี้เห็นว่าจำเป็นต้องมีสภาสูงต่อไปเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลสภาล่างและเพื่อไม่ให้เกิดการมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

เมื่อนายปิยบุตรลุกขึ้นชี้แจงก็ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อ ส.ว. กิตติศักดิ์ประท้วงและกล่าวว่านายปิยบุตรไม่สมควรมาชี้แจงในรัฐสภา เพราะเป็น “คนเนรคุณแผ่นดิน” ส่งผลให้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. ก้าวไกลประท้วงให้ถอนคำพูด นายกิตติศักดิ์จึงถอน แต่ขอแก้ไขเป็น “คนล้มล้างสถาบันฯ”

นายปิยบุตรจึงตอบว่าขอให้ประชาชนวินิจฉัยเองว่าถ้าประเทศไทยมีสมาชิกวุฒิสภาแบบนี้ ควรจะต้องมีวุฒิสภาต่อไปหรือไม่

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของเยาวชนคนรุ่นใหม่ตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมเมื่อปี 2563

นายวันชัย เป็น ส.ว.อีกคนหนึ่งที่อภิปรายคัดค้านอย่างเผ็ดร้อน โดยกล่าวว่าผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ร่างขึ้นมาจาก “ความเกลียด ส.ว” และ “โกรธศาลรัฐธรรมนูญ” ที่ไม่วินิจฉัยในทางที่เป็นคุณกับพวกตน

นายวันชัยอภิปรายต่อว่า การเสนอร่างฯ ของรี-โซลูชันมาจากชุดความคิด 2 ประการคือ 1.คนที่มาจากการเลือกตั้ง มาจากประชาชน เป็นคนดีที่สุด และต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ 2.คนที่ทำการปฏิวัติรัฐประหารเป็นคนเลว ต้องล้มล้างให้หมดไป ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยเพราะคนที่มาจากการเลือกตั้งไม่ใช่คนดีเสมอไปและทุจริตก็มี

ส่วนการรัฐประหารนั้นก็มีมูลเหตุที่มา “ถ้าการเมืองเข้มแข็งมีเสถียรภาพ ไม่มีการโกง ทุจริต คณะทหารที่ไหนจะกล้าปฏิวัติ” นายวันชัยกล่าวและทิ้งท้ายว่า แม้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเสนอให้ ส.ว. อยู่ต่อไป เขาก็ไม่อาจจะรับร่างนี้ได้

4. ส.ส.พลังประชารัฐหนุนรื้อศาลรัฐธรรมนูญ

แม้ว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว. จะรุมคัดค้านเนื้อหาหลายอย่างของร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่วีระกร คำประกอบ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายสนับสนุนเรื่องการรื้อโครงสร้างและปรับบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญ

นายวีระกรบอกว่าแม้หลายประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ “รับได้ยาก” แต่เขาเห็นด้วยว่าศาลรัฐธรรมนูญมีปัญหาที่จำเป็นต้องแก้ไข และเห็นด้วยกับวิธีการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่กลุ่มรี-โซลูชันเสนอ

“ปัจจุบันศาลรัฐธรรมนูญใหญ่เท่า ๆ กับรัฐธรรมนูญ เหมือนเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่อย่างเดียวคือวินิจฉัยปัญหาในการตีความกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่ระยะหลังมานี้ ศาลธรรมนูญไม่ได้แค่ตีความกฎหมาย แต่มาตัดสินว่าคนไหนผิด คนไหนต้องถูกจำคุก ซึ่งมันไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เพี้ยนไปเยอะ” และเห็นด้วยการวิธีการได้มาซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ว่ว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรจะไปยุ่งเลอะไปหมด

5. คำถามเรื่องระบบเลือกตั้ง

สมาชิกรัฐสภามีการตั้งคำถามถึงระบบเลือกตั้งว่าเนื้อหาเรื่องระบบเลือกตั้งในร่างของกลุ่มรี-โซลูชันซึ่งใช้ข้อความเดียวกับรัฐธรรมนูญ 2560 อาจขัดกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้งของพรรคการเมือง ที่ให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งอยู่ระหว่างรอลงพระปรมาภิไธย

นายพริษฐ์ชี้แจงประเด็นนี้ว่าผู้เสนอร่างฯ ไม่มีเจตนาแก้ไขเรื่องระบบเลือกตั้ง แต่เหตุที่คัดลอกข้อความในรัฐธรรมนูญ 2560 มาแปะไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนก็เพราะยังไม่ต้องการแตะเรื่องระบบเลือกตั้งซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดที่ต้องแก้ไข อย่างไรก็ตามทางกลุ่มฯ พร้อมจะแก้ไขหากผ่านวาระที่ 1 และเข้าสู่การพิจารณารายมาตราในวาระที่ 2

“ขอยืนยันว่า ถ้ามีการลงพระปรมาภิไธยในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้งซึ่งเปลี่ยนกลับไปเหมือนรัฐธรรมนูญ 2540 ก่อนการพิจารณาร่างของเราในวาระที่ 2 เราก็ยินดีแก้ข้อความให้เหมือนร่างฯ (แก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทุกถ้อยคำ”

6. ชื่นชมเทคนิคการร่างรัฐธรรมนูญ

เป็นที่น่าสังเกตว่าในการอภิปรายคัดค้านเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส. และ ส.ว. หลายคนได้กล่าวชื่นชมร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่ามีการร่างมาเป็นอย่างดี แปลงความคิดของผู้ร่างออกมาเป็นกลไกทางกฎหมายได้ชัดเจน และยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรวบรวมรายชื่อประชาชนได้ถึงกว่า 1.35 แสนคนเพื่อเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. ซึ่งกล่าวว่าในฐานะที่เขาเคยเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญมาก่อน “ขอชื่นชมการยกร่างที่ทำได้ค่อนข้างสมบูรณ์ มีการโยง (เนื้อหา) เข้าหากันได้อย่างถูกต้องครบถ้วน เป็นตัวอย่างของร่างรัฐธรรมนูญที่ยกร่างมาได้ดี แต่เนื้อหาสาระก็ว่ากันอีกที”

ขณะที่ ส.ว.มณเฑียร บุญตัน กล่าวว่าแม้เขาจะไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญในหลายประเด็น แต่เขาอาจจะพิจารณารับหลักการในวาระที่ 1 “เพื่อเป็นการให้เกียรติประชาชนที่เสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้ามา”

น่าน

น่าน

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

Next Post

บทความ แนะนำ