จนท.สนธิกำลัง จับ 3 พ่อค้ายาเสพติดทำเป็นขบวนการ มีการวางแผนอย่างดี นำรถไปรับจากเชียงรายมาที่น่าน เจอด่านคัดกรองโควิดเลยจนมุม เพราะต้องลงมาให้ตรวจ ยึดของกลางเฮโรอีนหนัก 35 กก. ค่านับร้อยล้านซ่อนในช่องลับ เผยหัวโจกเป็นอดีตผู้รับเหมาที่ผันตัวมาขนยา จากภาคเหนือไปสุไหงโก-ลก
เวลา 18.30 น. วันที่ 18 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จ.น่าน ป.ป.ส.ภาค 5 กกล.ผาเมือง สำนักงาน ป.ป.ส.4 DEA สหรัฐอเมริกา ประจำ จ.เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขยายผลร่วมกัน นำไปสู่การจับกุมขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ บริเวณจุดตรวจจุดสกัด ด่านควบคุมโรคโควิด-19 บ้านนาหวายใหม่ ม.5 ต.ป่าคาหลวง อ.บ้านหลวง จ.น่าน ผู้ต้องหา 3 คน

ผู้ต้องหาที่ 1 นายธีนพันธ์ คำผาบูรณปัญญา อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 177/17 ม.4 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี (ภูมิลำเนาเดิมอยู่ อ.นาน้อย จ.น่าน) ผู้ต้องหาที่ 2 นายสุรเดช กันธะโย อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 74 ม.4 ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี (ภูมิลำเนาเดิม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่) ผู้ต้องหาที่ 3 นายกมล คำพิมาร อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 84 ม.3 ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ขณะลงรถมาลงทะเบียนและตรวจคัดกรองโรคโควิด พร้อมด้วยของกลาง 1. เฮโรอีน จำนวน 50 คู่ (100 แท่ง) น้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม ราคาเกือบ 100 ล้านบาท จากการตรวจค้นรถโดยละเอียด พบช่องซุกซ่อนบริเวณกระบะท้ายรถคันที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ขับมา
นอกจากนี้ ได้ยึดรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่น เรนเจอร์ สีขาว ทะเบียน 3 ฒฆ 9764 กทม. โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันกันมียาเสพติดประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย”

ทั้งนี้ ชุดเฉพาะกิจตรวจยึดจับกุม สืบสวนทราบว่า มีขบวนการค้ายาเสพติด ลำเลียงเฮโรอีน จากชายแดนภาคเหนือ ไปยัง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยกลุ่มผู้ลำเลียงจะนำรถยนต์ซึ่งมีลักษณะเหมือนกัน สร้างช่องลับ ถอดแม็กไลเนอร์ออก แล้วนำยาเสพติดซุกซ่อนด้านข้างของแม็กไลเนอร์ เดินทางมาจาก จ.ปทุมธานี มาจอดไว้ที่บ้านญาติของนายธีนพันธ์ ที่ อ.นาน้อย จ.น่าน ใช้รถยนต์อีกคันขึ้นไปรับยาเสพติด โดยซุกซ่อนยาเสพติดในช่องลับที่สร้างไว้ แล้วเดินทางเลี่ยงด่านกลับมาที่ อ.นาน้อย จ.น่าน เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่รัฐ ว่ารถยนต์คันที่มียาเสพติดนั้น ไม่ได้มาจากจังหวัดชายแดนภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งพักยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตามด่านต่างๆ จึงไม่เข้มงวดในการตรวจค้น
โดยในครั้งนี้ ใช้รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฟอร์ด เรนเจอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ฒฆ 5465 กทม. จอดไว้ที่ อ.นาน้อย จ.น่าน แล้วใช้รถรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฟอร์ด รุ่น เรนเจอร์ สีขาว ทะเบียน 3ฒฆ 9764 กทม. เดินทางขึ้นไปรับยาเสพติดที่ อ.แม่สาย พักรอที่โรงแรมสตาร์รีสอร์ต ตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.2564 แต่เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว มีการจับกุมยาเสพติดจำนวนมาก ทางเจ้าของยาเสพติดจึงส่งยาให้ช้า จนกระทั่งในวันที่ 17 ก.พ. จึงมีคำสั่งให้มารับยาเสพติดของกลางบริเวณทุ่งนาข้างสุเหร่า ห่างจากโรงแรมประมาณ 2 กิโลเมตร นำยาเสพติดกลับมาที่รีสอร์ตเพื่อนำมาใส่ช่องลับ ในตอนเช้าวันที่ 18 ก.พ. แล้วเดินทางกลับมาจังหวัดน่าน แต่ถูกจับเสียก่อน
พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.จว.น่าน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้สนธิกำลังกันติดตามพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าวมานานกว่า 1 ปี แต่ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาใช้วิธีตบตาเจ้าหน้าที่ ทำให้หลบหนีการจับกุมไปได้
จนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม มาสบโอกาสที่จังหวัดน่าน ที่ยังคงมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ผู้เดินทางเข้าออกจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนการคัดกรองโรค ทำให้ผู้ต้องหาต้องลงจากรถ และเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ไม่สามารถหลบหนี รวมทั้งพกพาอาวุธเพื่อต่อสู้ขัดขืนการจับกุมได้
“กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 เป็นขบวนการค้ายาเสพติด ทำการลำเลียงเฮโรอีน จากชายแดนภาคเหนือ ไปยัง อ.สุไหงโก-ลก มาแล้ว 2 ครั้ง และนำไปส่งในพื้นที่ของผู้ต้องหาที่ 1 จังหวัดปทุมธานี 3 ครั้ง โดยเฉพาะผู้ต้องหาคนที่ 1 อดีตเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในอำเภอนาน้อย ได้ไปรับเหมาก่อสร้างที่ กทม. และต่างจังหวัด แต่เศรษฐกิจไม่ดีในหลายปีที่ผ่านมา จึงหันเหย้ายจากจังหวัดน่าน ไปตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ทำกิจการบางอย่างบังหน้า มีฐานะร่ำรวย”

