ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดข้อมูล COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ พบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อแล้ว 36 คน กระจายใน 12 จังหวัด ล่าสุด เสียชีวิตแล้ว 1 คน คือ นพ.ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ ขอประชาชนอย่าปกปิดข้อมูล เพื่อให้ทีมแพทย์ระมัดระวังในการรักษา
วันนี้ (18 ก.พ.2564) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย โดยระบุว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ระลอกใหม่ พบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อแล้ว 36 คน ในจำนวนนี้ เสียชีวิต 1 คน คือ นพ.ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ ที่เสียชีวิตจากการรักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ จ.มหาสารคาม
สำหรับข้อมูลของบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อพบว่า อายุอยู่ที่ 21-70 ปี โดยพบมากสุดในกลุ่มวัยทำงาน จำแนกเป็น แพทย์ 4 คน ทันตแพทย์ 1 คน พยาบาล 9 คน ผู้ช่วยพยาบาล 1 คน เภสัชกร 3 คน นักเทคนิคการแพทย์ 1 คน นักเทคนิครังสี 2 คน นักกายภาพบำบัด 1 คน นักศึกษาแพทย์ 1 คน เจ้าหน้าที่ Back office โรงพยาบาล 4 คน พนักงานเวรเปล 1 คน และเจ้าหน้าที่อื่นๆ เช่น เจ้าหน้าที่คลังยา เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ธุรการ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ รวม 8 คน
นพ.จักรรัฐ ระบุอีกว่า บุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสผู้ที่ป่วยใกล้ชิดในครอบครัว ใกล้ชิดกับผู้ป่วยในโรงพยาบาล อย่างปทุมธานี มีนักศึกษาแพทย์ 1 คน คาดว่าติดเชื้อจากผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา โดยคนไข้มาด้วยประวัติกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ระหว่างการตรวจผู้ป่วยไม่ได้สวมหน้ากาก ทำให้โอกาสติดเชื้อค่อนข้างง่าย เพราะเวลาตรวจร่างกายจะอยู่อย่างใกล้ชิด ทำให้มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ป่วยหรือญาติที่ไปโรงพยาบาล ต้องพยายามสวมหน้ากากตลอดเวลา
สำหรับบุคลากรการแพทย์ซึ่งเข้ารับการรักษาและกักตัวกระจายอยู่ใน 12 จังหวัด โดย กทม.มากที่สุด จำนวน 12 คน รองลงมาคือ สมุทรสาคร 12 คน นนทบุรี 3 คน เพชรบุรี 1 คน กาญจนบุรี 1 คน ขอนแก่น 1 คน ชลบุรี 1 คน ตาก 1 คน ปทุมธานี 1 คน ราชบุรี 1 คน สิงห์บุรี 1 คน และอ่างทอง 1 คน
ขอความร่วมมือประชาชนดูแลสุขภาพตัวเอง และแจ้งประวัติอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปกปิดข้อมูล เพื่อให้บุคลากรการแพทย์ระมัดระวังมากขึ้น ขอประชาชนร่วมมือทำแบบประเมินสำรวจความเสี่ยง หากไปพื้นที่เสี่ยงขอให้เลื่อนนัดแพทย์ไปก่อน
นพ.จักรรัฐ ยังได้กล่าวถึงกรณีมีการรายงานข่าวว่าประเทศญี่ปุ่นขาดแคลนเข็มฉีดยาหลังเริ่มฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้ประชากรอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่า กรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมชุดฉีดวัคซีน คือ หลอดฉีดยาและเข็มฉีดยาไว้ครบจำนวนแล้ว โดยขณะนี้สั่งซื้อไป 2.6 ล้านชุด เพื่อรองรับการฉีดวัคซีน 2 ล้านโดสแรกที่จะฉีดภายใน 3 เดือนนี้ ส่วนอีก 60 ล้านโดสหลัง ได้มีการสั่งจองแล้วเช่นกัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตภายในประเทศ มีแผนจัดส่งให้เพียงพอและพร้อมกันกับช่วงเวลาในการฉีดวัคซีน
ยืนยัน วัคซีนมีเมื่อไหร่หลอดและเข็มฉีดยามีพร้อมแน่นอน
