วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2025
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ติดต่อเรา
  • แผนผังเว็บไซท์
  • Login
น่าน
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
  • น่าน
  • ข่าว
  • กิจกรรม
  • หางาน
  • ธุรกิจ
  • ร้านค้า
  • วิถีชีวิต
    • คนสำคัญ
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • สถานศึกษา
  • ผู้สนับสนุนเว็บ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
น่าน
No Result
View All Result
Home ข่าว

พปชร. ผนึก ส.ว. โหวตคว่ำญัตติแก้รัฐธรรมนูญ ส่งศาลตีความ

น่าน by น่าน
5 ปี ago
in ข่าว
Reading Time: 1min read
158
0
100
SHARES
200
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterSent to LINE friend

This image is not belong to us

ในที่สุดรัฐสภา นำโดย ส.ว. 250 คน จับมือพรรคพลังประชารัฐ ชนะโหวตด้วยคะแนน 366 ต่อ 315 เสียง ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ต่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

ไฮไลต์การอภิปรายปมรัฐธรรมนูญร้อน ที่พรรคขั้วรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ยกให้เป็นความเห็นที่สำคัญคือ การอภิปรายของ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขิงแก่แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ที่เริ่มต้นอภิปรายว่า ญัตติดังกล่าวมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เนื่องจากมาตรา 156 ที่กำหนดเรื่องให้ใช้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาไม่มีเนื้อหาดังกล่าวบัญญัติไว้ แม้มาตราดังกล่าวจะระบุเปิดช่องให้เรื่องอื่นตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้

เชื่อว่ามีเพียงประเด็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ หากถูกส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ จะเสียเปล่าเพราะขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภานั้นดำเนินการไปตามขั้นตอนและกระบวนการที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว ทั้งรัฐสภารับหลักการ มีกระบวนการแปรญัตติ และรอเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาวาระสองและวาระสาม

“บัญญัติ” ยกตัวอย่าง การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับแม้รัฐธรรมนูญในอดีตที่สามารถทำโดย โดยรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในเวลานั้นไม่มีบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2490 ในปี 2491 เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2534 ในปี 2539 เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540

ส่วนกรณีที่อ้างถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 18-22/2555 ที่กำหนดให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติจากประชาชน ตนถือเป็นคำวินิจฉัยที่ชี้ว่าการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทำได้โดยชอบธรรมครบถ้วน โดยให้อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ เพราท้ายที่สุดก็ไปสู่ประชาชนด้วยการลงประชามติ

ทำรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องรัฐประหาร

ขณะที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล พรรคเบอร์สองฝ่ายค้าน ชี้ให้เห็นว่า ถ้าเรายอมรับการตีความแบบนี้ หมายความว่าประเทศไทยจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ด้วยการรัฐประหาร ฉีกรับธรรมนูญเท่านั้นใช่หรือไม่ นี่คือความหมายที่แท้จริงของการยื่นญัตตินี้

“ปัจจุบันเครือข่ายรัฐประหารสามารถยึดกุมอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญ ระบบเลือกตั้ง และรัฐสภาได้ พื้นที่การเมืองเกือบทั้งหมดอยู่ในมือพวกท่าน แม้แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ก็ยังมีความกังวลว่าจะอยู่ในมือพวกท่านอีก แต่ท่านยังจะใช้สถาบันตุลาการเป็นเครื่องมือเพื่อกินรวบพื้นที่การเมือง หากยังดื้อดึง ความขัดแย้งทางการเมืองมีแต่จะพาพวกเราไปสู่ทางตัน ขอเรียกพวกเราในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติที่จะแสดงว่าเป็นผู้มีจิตใจประชาธิไตย ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องปกติทำได้ในรัฐสภา อย่าทำให้รัฐธรรมนูญถาวรฉบับใหม่ต้องทำผ่านการรัฐประหารอีกเลย” นายพิธากล่าว

จวกใช้แผนดีเลย์แทคติก

“ศุภชัย ใจสมุทร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ประกาศจุดยืนพรรค ว่า พรรคได้คะแนน 3 ล้าน 7 แสนคน เพราะเรายืนยันจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคมีจุดยืน ซึ่งเป็นจุดยืนเดียวกับรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งการให้มี ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งประเทศ แล้วยกร่างเสร็จก็กลับไปถามประชาชน ในเรื่องของประชามติ เป็นการสถาปนารัฐธรรมนูญโดยประชาชน เจ้าของอำนาจที่แท้จริง

“วันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเรามีความจริงใจที่มีต่อประชาชนหรือไม่ หรือเป็นการใช้ดีเลย์แท็กติกให้การแก้ไขช้าไปหรือไม่ เป็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยเป็นห่วง เราเห็นว่าบ้านเมืองต้องเดินหน้าไม่ควรสะดุดแบบนี้ ก็อยู่ที่ว่า พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดปัญหานั้น เราควรช่วยดึงฟืนออกจากกองไฟ เราไม่ต้องการสุมไฟให้เกิดการลุกโชนขึ้นอีก และบางคนบอกว่าถ้าเรามีการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ต่อไปก็ถูกดำเนินคดีอาญาฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเราทุกคนก็พร้อมหากจะถูกดำเนินคดี เราพร้อมยืนหยัดสู้กับความไม่ถูกต้องตรงนั้น”

 ฉะใช้ รธน.เก่าคุมเลือกตั้ง 2566

“ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ส่วนใหญ่สมาชิกสภาอภิปรายไม่เห็นด้วยกับญัตติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ หลายคนบอกว่าเพื่อความรอบคอบ เพื่อความสบายใจ ควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และจะไม่กระทบต่อการพิจารณาวาระที่ 2-3

ถ้ามีการส่งศาลรัฐธรรมนูญ สิ่งที่เราคิดว่าจะได้รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 สิ่งที่เราจะได้คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 2564 เพราะดูขั้นตอนเราจะลงมติ 2-3 วันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ และเปิดประชุมสมัยวิสามัญ 17-18 มีนาคม เพื่อให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3

หลังจากนั้นเข้าสู่การประชามติ ร่างกฎหมายประชามติที่กำลังจะออกกำหนดให้มีการทำประชามติภายใน 90 วัน ไม่เกิน 120 วัน ตีไว้ว่า 3 เดือน มิถุนายน จะได้ทำประชามติ หลังจากนั้นโปรดเกล้าฯ สิงหาคม- กันยายน หลังจากนั้นเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ใช้เวลา 90 วัน ดังนั้น พฤศจิกายน – ธันวาคม ถึงจะตั้ง ส.ส.ร.ได้ซึ่งใกล้ปี 2565

“ถ้าทำอย่างนี้ จะได้รัฐธรรมนูญใหม่ไม่ทันการเลือกตั้ง 22 มีนาคม 2566 เพราะต้องไปทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญรองรับอีกหลายเดือน คือผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ ถ้าจะอาศัยช่องว่างดึงจังหวะเวลามีผลกระทบทั้งหมด” นายชลน่าน กล่าว

ส.ว.ยันหัวชนฝาต้องส่งศาล

ฟากฝั่ง ส.ว. ตอบโต้เป็นระยะ อ่านนัยยะแห่งการอภิปราย ผ่านแกนนำ ส.ว. เช่น “สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย” ส.ว.กล่าวว่า ที่กังวลว่าการยื่นญัตติครั้งนี้จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้าออกไป เป็นการสื่อสารที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะหากส่งศาลไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านวาระ 1 ไปแล้วและประธานรัฐสภาบรรจุวาระการประชุม 24-25 กุมภาพันธ์แล้ว

ส่วนรัฐสภาแห่งนี้มีอำนาจพิจารณาญัตติส่งศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่นั้น ได้พยายามศึกษาดูการยื่นญัตติตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210(2) และมาตรา 41(4) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ให้รัฐสภามีอำนาจส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ศาลหาข้อยุติให้ ดังนั้น ตนเห็นว่าที่ประชุมมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ตราบใดที่ยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังเป็นเอกสิทธิ์ที่รัฐสภาจะทำหน้าที่ต่อไป

ขณะที่ “เสรี สุวรรณภานนท์” แกนนำ ส.ว.อีกราย อภิปรายว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญผมไม่ได้ปฏิเสธเรื่อง ส.ส.ร.แต่ด้วยความไม่ชัดเจน ถ้าเราทำให้ชัดเจน ข้อเรียกร้องในปัจจุบัน ข้อเสนอต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการเมืองปัจุบันเป็นปัญหาทางการเมืองที่ต้องชัดเจน ดังนั้นความขัดแย้งในบ้านเมือง ก็ต้องสร้างความชัดเจนส่งให้ศาลรัฐลรรมนูญวินิจฉัย จึงเห็นว่าญัตตินี้ได้ประโยชย์มากกว่าเสียประโยชน์ มีข้อดีมากว่าข้อเสีย

“สมชาย แสวงการ” ส.ว.กล่าวสรุปว่า ยืนยันตลอดที่ทำหน้าที่รัฐสภา ตนเห็นด้วยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ทำได้ แต่ไม่อนุญาตให้ทำรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ตนได้ศึกษาทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย จริงอยู่ที่สมาชิกหลายคนบอกว่าสามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญภายหลังก่อนนายกฯ ทูลเกล้าได้ แต่ถ้าถึงขั้นตอนนั้นกระบวนการล้มขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร ยืนยันว่า ไม่ได้เตะถ่วง การยื่นศาลรัฐธรรมนูญนี้สำคัญอย่างยิ่งว่ารัฐสภามีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้หรือไม่

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญ ๆ อย่าง พรรคประชาธิปัตย์ – พรรคภูมิใจไทย มีมติพรรคส่วนรัฐบาล ไม่ต้องการให้เรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญ

แต่ที่สุดแล้ว ประชุมรัฐสภามีการลงมติ เห็นด้วยกับญัตติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ โดยใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุม ด้วยคะแนน 366 ต่อ 315 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง จากจำนวนผู้ลงมติ 696 เสียง

พรรคพลังประชารัฐ 120 เสียง บวกกับ ส.ว.250 คน ก็ฝ่าด่าน ส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ไม่ยาก

This image is not belong to us This image is not belong to us

Tags: newsข่าวจังหวัดน่าน
Previous Post

ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ฝึกหายใจเอง-รู้สึกตัวดีขึ้น-ขยับข้อเท้าได้

Next Post

ปภ.จ.น่าน สาขาเชียงกลาง ลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง

น่าน

น่าน

แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง

Next Post
PT-ปกอัพเว็บ-2-line.png

ปภ.จ.น่าน สาขาเชียงกลาง ลงพื้นที่ตรวจติดตาม โครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง

บทความ แนะนำ

เปิดคลังภูมิปัญญาสล่า“พุทธศิลป์วัดแสงดาว”ศูนย์เรียนรู้เชิงช่างพื้นถิ่นภูเพียงสู่พื้นที่สร้างสรรค์น่าน

“หมอชลน่าน”ยันร่าง MOU พรรคก้าวไกล ไม่มีเงื่อนไข ม.112-“เพื่อไทย”ไม่เอานิรโทษกรรม

คนอุบลฯ โวยมีชื่อเลือกตั้งนอกเขตไกลจากอีสานโผล่ทั้งภาคเหนือและภาคใต้

‘น่านบันดาลใจ’จริง!อพท.นำเครือข่ายยกระดับหัตถกรรม-ศิลปะพื้นบ้านน่าน ปั้นเมืองสร้างสรรค์ชงยูเนสโกปีนี้

“น่าน” ผนึกเครือข่าย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “กำแพงเมืองเก่า-คูเมืองน่าน”ต่อเนื่อง เชื่อมประวัติศาสตร์กับวิถีคนน่าน บันดาลไอเดียหนุนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวยั่งยืน

‘เพื่อไทย”จ่อเปิดเวทีใหญ่บางระกำซ้ำ 30 เมษาฯนี้ ‘สมศักดิ์’ลั่น พท.แลนด์สไลด์ สร้างงานทันควัน-เงินดิจิทัลแก้เศรษฐกิจฉับพลัน

“ธรรมนัส” ลั่น! 8 จว.ภาคเหนือ “พลังประชารัฐ” ได้เก้าอี้ ส.ส.ทุกจังหวัดแน่

“เศรษฐา” ควง “โอ๊ค” ลงพื้นที่แม่กลอง ขอพรหลวงบ้านแหลม พร้อมช่วยลูกพรรคหาเสียง

“ชัยเกษม”แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย วูบ ต้องนำส่ง รพ.ระหว่างหาเสียงเมืองน่าน เตรียมส่งรักษา กทม.พรุ่งนี้

สุดเศร้า! อดีต ส.อบต.ร่วมทีมอาสาดับไฟป่า เจอลมแรงหัวไฟเปลี่ยนทิศโดนคลอกดับ

เชียงใหม่เผชิญวิกฤตฝุ่นควันต่อเนื่อง-ค่ามลพิษอากาศพุ่งยึดแน่นอันดับ 1 เมืองหลักอากาศเลวร้ายที่สุดโลก

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และมูลนิธิพุทธรักษา มอบวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือป้องกัน-ดับไฟป่า

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การขนส่งทางรถไฟ รถไฟฟ้า การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตเส้นไหม การผลิตและบรรจุยา การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การหีบฝ้าย ปั่นนุ่น การเคลือบ ชุบ อาบขัดโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ตรวจหวย ธุรกิจ น่าน บริษัท มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.น่าน เขต 1 สพป.น่าน เขต 2 สพม.เขต 37 สมาคม หน่วยงานราชการ อบจ. อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

เกี่ยวกับเรา น่าน



เป็นศูนย์รวมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะและ ให้คำแนะนำเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ต่าง ๆ อีกด้วย

Unable to open file!