รวบสาวสวยสุดแสบ เปิดรับจำนำรถ กลับนำปล่อยต่อทั้งรถยนต์-จยย.ล่องหนหลายคัน

ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รวบสาวสวยสุดแสบเปิดโกดังรับจำนำรถ ดอกร้อยละ 10 พร้อมค่าจอด เหยื่อประสบปัญหาทางการเงิน นำรถยนต์ และ จยย.ไปจำนำ จ่ายเงินครบ แต่กลับไม่ได้รถคืน อ้างสารพัด สืบข้อมูลพบบางคันจำนำ และขายต่อ โดน 2 ข้อหา “ฉ้อโกงและยักยอก”

(1 ก.พ.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้จับกุม น.ส.สุนิสา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ หลังมีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่า ถูก น.ส.สุนิสา ฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ สืบเนื่องจากเหยื่อได้มีเหยื่อนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไปจำนำกับ น.ส.สุนิสา ซึ่งเป็นสาวสวยหน้าตาดี โดยคิดดอกเบี้ย ร้อยละ 10 พร้อมค่าจอด 300 บาท แต่พอเหยื่อจ่ายเงินคืนครบแล้ว กลับไม่ได้รถของตัวเองคืน เมื่อไปสอบถาม น.ส.สุนิสา ก็บ่ายเบี่ยงสารพัดและพยายามหลบเลี่ยง บางคนผ่านไป 2 – 3 เดือน ยังไม่ได้รถคืน จึงเชื่อว่าน่าจะแอบนำรถที่จำนำไว้ไปปล่อยจำนำ หรือขายต่อ จึงไม่มีรถมาคืนลูกค้า ซึ่งขณะนี้ น.ส.สุนิสา ถูกผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดแล้ว 5 คดี

น.ส.ชัญญา สิงห์ทอง หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงที่โควิดระบาด น้องชายประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางด้านการเงิน จึงมีเพื่อนแนะนำให้น้องชายนำรถไปจำนำที่โกดังแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จากนั้นวันที่ 6 ต.ค.2563 น้องชายจึงตัดสินใจเอารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าไปจำนำ โดยยอดรับจำนำทั้งหมด 10,000 บาท แต่พอทำเรื่องเสร็จ ก็ได้รับเงินแค่ 8,700 บาท เพราะถูกหักดอกเบี้ย 1,000 บาท และค่าจอดไว้ที่โกดังอีก 300 บาท ต่อมาวันที่ 23 ต.ค. ตนได้นำเงินจำนวน 3,000 บาทไปจ่ายให้กับ น.ส.สุนิสา ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่รับจำนำอยู่ที่โกดังดังกล่าว จากนั้นวันที่ 3 พ.ย. ก็ได้โอนเงินอีกจำนวน 7,000 บาท เข้าบัญชีให้กับ น.ส.สุนิสา อีก รวมเป็น 10,000 บาท แต่ น.ส.สุนิสา ก็ยังไม่ได้คืน โดยนัดว่า วันที่ 3 ธ.ค. , 11 ธ.ค. และ 20 ธ.ค. ว่า จะเอารถมาคืนแต่ก็ไม่ได้คืน อ้างโน่นอ้างนี่บ่ายเบี่ยงสารพัด กระทั่งวันที่ 22 ธ.ค.2563 รับปากว่า จะเอามาให้แน่นอนรอจนค่ำก็ยังไม่เอารถมาคืนอีก จึงเชื่อว่าน่านถูกยักยอกเอารถไปจำนำหรือขายต่อ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.สุนิสา

จากกรณีดังกล่าวก็อยากแจ้งเตือนภัยว่าอย่าไปหลงเชื่อกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว เพราะอาจจะถูกหลอกนำรถไปจำนำแล้วขายต่อ ทำให้สูญเสียทรัพย์สินได้

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อหา “ฉ้อโกง และยักยอกทรัพย์” ซึ่งหากมีผู้เสียหายรายอื่นถูกก็สามารถเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้