“บิ๊กตู่” ลั่นเล่นการเมืองต่ออีก 2 ปี แล้วรอคนใหม่สานต่อ พยักหน้ารับร่วมสังฆกรรมรวมไทยสร้างชาติ ยันยังไม่ยุบสภา บิ๊กป้อม ไม่ตอบปมมิ่งขวัญ ซบพลังประชารัฐ อนุทิน ชี้ร่วมงานได้กับทุกพรรค ยัน ภท. ไม่เคยเลือกปฏิบัติ ด้านหมอชลน่าน ประกาศเพื่อไทยพร้อมปักธงลงพื้นที่ทั่วไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน แพทองธาร เปิด 10 นโยบายพลิกฟื้นประเทศ ปี 2570
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ เตรียมเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ว่า ก็ยินดีด้วยแล้วกัน เมื่อถามว่า ถ้าจะมีการยุบสภาจะด้วยเหตุผลอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มี ยังไม่มี
เมื่อถามว่า หลังเดินทางกลับจากกรุงบรัสเซล เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป (ASEAN-EU Summit) ระหว่างวันที่ 12-15 ธ.ค. จะมีความชัดเจนทางการเมืองเลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบ เมื่อถามว่า กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับมาถึงรัฐบาลหรือยัง นายกฯกล่าวว่า ยังไม่เห็น แต่เดี๋ยวคงส่งมา ตอนนี้ยังไม่ได้ส่งมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้เท่ากับเดินหน้าไม่มีถอยหลังแล้วใช่หรือไม่ ในทางการเมือง ตัดสินใจแล้วใช่หรือไม่ นายกฯหยุดมองยังไม่ตอบคำถาม เมื่อถามอีกว่า นายกฯ ทำการเมืองในส่วนของตัวเองไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ที่บอกว่าจะทำบน 3 แกนหลัก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คือทำการเมืองตนว่าทุกคนก็ต้องทำอยู่แล้ว คือทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นภาระในวันข้างหน้า นั้นคือสิ่งสำคัญ การจะพูดอะไรออกไปก็ต้องระมัดระวังที่สุด การจะทำโน่นให้โน่นให้นี่ต้องดูว่ารายได้เราเพียงพอหรือไม่ ในการที่จะไปจ่ายในสิ่งเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ภาพรวมของสถานะการเงินการคลังล้มเหลว
เมื่อถามว่า นายกฯ ตั้งเป้าหมายการทำงานในปีหน้าอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ผมก็อยู่ ถ้าสมมุติว่าต้องอยู่ ก็อยู่ได้แค่ปี 68 นั่นแหละนะ” เมื่อถามว่า ความตั้งใจของนายกฯคือเดินต่อใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ถึงวันนี้ก็น่าจะพอรู้มั้ง” เมื่อถามย้ำว่า ก็พอจะเริ่มชัดเจนว่านายกฯไปต่อ แม้จะไปต่อได้แค่ 2 ปีก็จะไปต่อใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ 2 ปี ก็จะทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด และจากนั้นต่อมาก็จะมีคนใหม่ที่เหมาะสม ที่ประชาชนยอมรับ และทำต่อแค่นั้นเอง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวที่จะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็เดี๋ยวผมยังไม่ได้พูดเท่านั้นเอง เดี๋ยวค่อยพูด” เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ารอเรื่องของกฎหมายให้เรียบร้อยก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบ ก่อนเดินขึ้นไปตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อถามว่า แสดงว่านายกฯจะเข้าสังกัดพรรคการเมืองใช่หรือไม่ และเมื่อถามว่า มีความชัดเจนถึงขณะนี้แล้วขอให้พูดมาเถอะ นายกฯพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า เออๆ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีจะมีการเปิดตัว นายมิ่งขวัญเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ จะให้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ได้แต่ยิ้ม ส่วนเหตุผลในการเลือกนายมิ่งขวัญร่วมงานพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.ประวิตร กล่าวว่า ต้องไปถามนายมิ่งขวัญ มาถามตน ตนจะรู้ได้อย่างไร เมื่อถามว่า งานวันนี้จะไปด้วยตัวเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบ เมื่อถามอีกว่า เหตุใดจึงให้นายมิ่งขวัญทำหน้าที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครบอก ตนยังไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าการที่นายมิ่งขวัญจะทำหน้าที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบและเดินขึ้นรถไป
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเตรียมเปิดตัวนายมิ่งขวัญเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ว่า รอให้มีการแถลงก่อนเราถึงจะวิพากษ์วิจารณ์ได้ ตอนนี้พูดอะไรไปคงไม่เหมาะ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มาดูวิวัฒนาการทางการเมืองหลังจากที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งออกมาแล้ว เป็นเรื่องที่การเมืองต้องพัฒนาไปตามกฎหมาย หรืออนุวัติตามกฎหมาย โดยเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 100 ทำให้พรรคเล็กต้องควบรวมกัน ยกตัวอย่าง หากมีพรรคการเมือง 40 พรรค คงไม่มีใครอยากได้เบอร์ 39 หรือเบอร์ 40 เพราะจะทำให้เลือกยากมาก ตอนนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีพัฒนาการทางการเมือง มีการย้ายพรรค ซึ่งนายมิ่งขวัญเป็นคนหนึ่งที่มองดูแล้วว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะต้องอนุวัติไปตามการเมือง ถึงได้ต้องมารวมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำให้กลุ่มสามมิตรตัดสินใจอยู่กับพรรคได้ง่ายขึ้นหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มันก็มีอะไรดีขึ้นนั่นแหละ และเชื่อว่าจะมีพรรคเล็กอีกหลายๆ พรรคเข้ามาอยู่กับพลังประชารัฐ จะทำให้พรรคใหญ่เข้มแข็งขึ้น เพราะถ้ามีบุคลากรที่มีศักยภาพจะทำให้เป็นการเติมเต็ม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้กฎหมายเลือกตั้งชัดเจนแล้ว ได้เวลาที่กลุ่มสามมิตรจะตัดสินใจแล้วหรือยัง นายสมศักดิ์กล่าวว่า มันก็ดีขึ้น เมื่อถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะมีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ครับ
นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการแบ่งงานว่าจะต้องกำกับดูแลในส่วนใดบ้าง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ จะมอบงานอะไรให้ทํา การที่ตนได้มาทำงานตรงนี้ก็รู้สึกปกติ เพราะตอนที่อยู่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ การทํางานมีลักษณะเดียวกัน เมื่อถามว่า ถูกมองว่าเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในฐานะตัวแทนของกลุ่มปากน้ำ นายสุนทร กล่าวว่า การทำงานของกลุ่มปากน้ำ เวลาทำงานกัน ตนพูดเสมอว่าเราต้องทำงานกันเป็นทีม ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับชาติ ถ้าถามว่ากลุ่มปากนํ้าหรือกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าจะไปทางไหน ก็ต้องบอกว่า ณ ขณะนี้ เราเป็นพรรคพลังประชารัฐ ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ต้องบอกว่าอนาคตคืออนาคต เมื่อถามว่า ในอนาคตมีคำตอบในใจหรือไม่ นายสุนทร กล่าวว่า ต้องตอบตรงๆ ว่า เราคือพรรคพลังประชารัฐ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เลือกตั้งครั้งหน้ายังไปต่อกับพรรคพลังประชารัฐ ใช่หรือไม่ นายสุนทร กล่าวว่า ก็น่าจะ เมื่อถามว่า ต้องดูสถานการณ์การเมือง ณ ขณะนั้นก่อนหรือไม่ นายสุนทร กล่าวว่า เรื่องการเมืองต้องมีการประเมินกันทุกเวลา เพราะในส่วนของเราไม่ได้มีแค่การเมืองระดับประเทศ แต่มีการเมืองท้องถิ่นด้วย เวลาทำงานอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ส.ส. หรือผู้นำท้องถิ่น จะต้องไปในแนวทางเดียวกันหมด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงกรณีนายมิ่งขวัญเตรียมร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ ว่า ท่านก็เป็นคนมีความสามารถ ครั้งที่แล้วท่านเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ท่านแสดงวิสัยทัศน์ทำให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ซึ่งเป็นพรรคที่พึ่งตั้งขึ้นมา เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่แล้วได้ส.ส.เข้ามาตั้ง 6-7 คน ตนเคยได้ฟังที่ท่านไปออกรายการทางด้านเศรษฐกิจ ท่านมีแนวคิดเศรษฐกิจแบบของท่าน ฟังดูมันก็เวิร์ค ถ้ามาช่วยในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี คนมีฝีมือก็ควรมีโอกาสเข้ามาทำงานรับใช้บ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของภูมิใจไทยมีคนที่จะนำมาสู้พรรคพลังประชารัฐในด้านเศรษฐกิจหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าบอกว่าสู้สิ ผู้สื่อข่าวชอบถามแบบนี้ ทุกคนมีความรู้มีความสามารถ และนำมาร่วมกันทำงาน ถ้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องร่วมกันทำงาน พยายามแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง พรรคภูมิใจไทยทำงานแบบนี้มาโดยตลอด ส่วนใหญ่พรรคภูมิใจไทยให้ความร่วมมือกับทุกพรรคไม่เคยมีปัญหา ใครเสนอนโยบายใดหากดูแล้วเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราจะไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนใหญ่เราเป็นฝ่ายถูกกระทำมากกว่า
ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน Think Big, Act Smart, For All Thais โดยในช่วงแรกของงานได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอ ที่เป็นการสรุปภาพการเปลี่ยนแปลง และการทำงานของ พรรคเพื่อไทย ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา โดยมี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ 2565 พรรคเพื่อไทย และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปาฐกถาหลักในหัวข้อ ประเทศไทย 2570
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า จากนี้ไปไม่เกิน 5 เดือน จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมายชนะเลือกตั้งถล่มทลายแบบแลนด์สไลด์ เพราะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคเพื่อไทยชนะได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสูงสุดที่ 136 เสียง แต่เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะกลไกในรัฐธรรมนูญ ให้วุฒิสมาชิก 250 คนเลือกนายกฯ เพราะนี่คือกติกาที่บิดเบี้ยว อำนาจรัฐ อำนาจเงิน พรรคเพื่อไทยที่ชนะแต่เหมือนแพ้ เราจึงต้องชนะแลนด์สไลด์ได้สมาชิกสภาเกิน 250 คน และจัดตั้งรัฐบาลของพี่น้องประชาชนให้ได้
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า การแลนด์สไลด์นั้นเป็นเป้าหมาย หนทางการเข้าสู่เป้าหมายคือการได้ทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชน โดยปรารถนาพาพี่น้องและประเทศชาติพ้นจากวิกฤต จึงมีคำถามว่าทำไมต้องเป็นพรรคเพื่อไทย ก็เพราะเป็นพรรคที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนสูงสุด ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย เราชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง และภายหลังปี 2562 พรรคเพื่อไทย ต้องกลับมามองสำรวจตัวเองภายใต้การเปลี่ยนแปลงของบริบทการเมืองอย่างมากมาย มีคนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น เราจึงต้องเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงปรับตัวเองให้ทันสมัยอยู่เสมอ พรรคเพื่อไทยได้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการ การมีส่วนร่วม ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร รีแบรนด์พรรคและสัญลักษณ์อย่างเข้มข้นตลอดปีที่ผ่านมา จึงทำให้เรามั่นใจได้ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความพร้อมสูงสุด พรรคเพื่อไทยเป็นคำตอบแห่งอนาคตที่ใช่ที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศที่ยุ่งยากซับซ้อนขณะนี้
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า แต่การที่พรรคเพื่อไทยจะชนะแลนด์สไลด์นั้นไม่ง่าย แม้เราจะมีกระแส มีความนิยมจากพี่น้องประชาชน แต่พวกเขามีกระสุน มีอำนาจรัฐ มีอำนาจเงิน มีอำนาจการจัดการเลือกตั้งให้ผลเลือกตั้งเป็นไปดังต้องการ แต่พรรคเพื่อไทยมี 3 ยุทธศาสตร์ที่จะพาพี่น้องแลนด์สไลด์ไปด้วยกันคือ 1. นโยบายที่เป็นประชาธิปไตย กินได้ ทำได้จริง ทำมาแล้ว และจะทำให้ดีมากกว่าเดิม 2. แคนดิเดตนายกฯ ที่มีความรู้ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคให้เป็นจริง และ 3. ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เข้าถึงพื้นที่ เข้าใจพี่น้องประชาชน
พรรคเพื่อไทยจึงเชื่อมั่นว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสดีที่สุด ที่ทุกท่านจะชนะเลือกตั้ง ชนะอย่างถล่มทลาย แต่ถ้าท่านทำไม่ได้ จะเป็นความพ่ายแพ้ เป็นสงครามครั้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย เพราะการพ่ายแพ้ครั้งนี้หมายถึง พี่น้องประชาชนเราจะถูกครอบงำภายใต้อำนาจรัฐและอำนาจเงินตลอดไป
ดังนั้น สู้ครั้งนี้ต้องชนะ เลือกพรรคเพื่อไทย เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ชนะขาด เพื่อให้เพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยพร้อม ประชาชนพร้อม ประเทศพร้อมเดินไปข้างหน้า ไปด้วยกัน พี่น้องที่เคารพครับ เราเคยคิดใหม่ทำใหม่ เราทำได้จริง ทำได้สำเร็จมาแล้ว ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยเรา คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อพี่น้องคนไทยทุกคน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
ภายหลังจากการปาฐกถา นายแพทย์ชลน่าน ได้มอบธงแลนด์สไลด์ให้แก่ผู้นำแต่ละภาค ซึ่งเป็นธงชัยไปสู่เป้าหมายของการชนะเลือกตั้งแบบ แลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน ที่จะนำพาพรรคเพื่อไทย และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้ง 400 เขต 77 จังหวัด ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยผู้รับมอบธงของแต่ละภาคได้แก่ ตัวแทนภาคเหนือ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ ตัวแทนภาคอีสาน