“อานนท์ แสนน่าน”ประกาศลั่นต้องมี “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน”ทั่วทั้งประเทศไทย หลังเสียงตอบรับจากทุกภาคส่วนด้วยบารมีใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร
22 มี.ค.2565 – ที่บ้านวังโป่ง ต.วังใต้ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย นางนิตยา นาโล รองประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันฯ นายสมชัย แสงทอง ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคเหนือ นางนิลุบล มีเมล์ ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันจังหวัดลำปาง และ ประชาชน ร่วมเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ตามแนวทางของ “แรมโบ้” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ที่ต้องการให้ประชาชนที่อยู่ตามหมู่บ้าน และ ชนบท มาแสดงพลังเปิดเป็น “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ผู้ที่มีความจงรักต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ ประชาชน ตามสโลแกนที่ว่า “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี อีสาน-ล้านนา-อโยธยา- อันดามัน”ทั่วทั้งประเทศไทย
นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยบารมีใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารการเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ได้รับกระแสตอบจากส่วนราชการ ทั้งผู้นำท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน และ ประชาชนจำนวนมาก ซึ่งแตกต่างกับการเปิด “หมู่บ้านเสื้อแดง” ที่ผ่านมา จะถูกสกัดจากฝ่ายต่างๆ แม้แต่คนเสื้อแดงด้วยกัน มิหนำซ้ำยังถูกสกัดจากนักการเมืองที่อ้างตัวเองว่า “ผู้รักประชาธิปไตย” ซึ่งกลัวว่าจะถูกแย่งมวลชน เพราะตอนนั้นคนเสื้อแดงมีหลายก๊ก แต่วันนี้พวกเรามีความ”ปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเพราะพระบารมี ฟื้นฟูปฐพีไทย ดุจหยาดทิพย์ชโลมแผ่นดิน ไม่มีก้อนดินใดในผืนดินนี้ที่น้ำพระหฤทัยของพระองค์กษัตริย์ไทยทุกพระองค์ไปไม่ถึง…พวกเราจึงขออยู่อย่างจงรัก ขอตายอย่างภักดี
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ถ้าหากประเทศไทยไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งนักการเมืองและข้าราชการประจำ สถาบันเป็นด่านสุดท้ายที่ไม่ทรงยอมโปรดเกล้านักการเมืองเลวหรือลงพระปรมาภิไธยโปรดเกล้าข้าราชการเลว ๆ แม้จะไม่ได้ทรงใช้พระราชอำนาจพิเศษเหล่านี้มากนัก แต่ก็เป็นด่านที่นักการเมืองและข้าราชการเลวๆ เกรงกลัว นักการเมืองและข้าราชการประจำจะประพฤติตัวเลว โกงกิน ทุจริต คอรัปชั่นหนักขึ้นมาก
ด่านสุดท้ายของกระบวนการยุติธรรมหรือการร้องทุกข์ของราษฎรคือ การถวายฎีกา แต่หลายกรณีก็ได้รับพระมหากรุณาปัดเป่าทรงช่วยเหลือ ข้าราชการที่ดีและนักการเมืองดีก็มีกำลังใจในการทำงาน อย่างน้อยก็รู้ว่าฟ้ามีตา สวรรค์มีใจ และทุกสิ่งอย่างยังอยู่ในพระเนตรพระกรรณ นักการเมืองจะทะเลาะตบตีกันหนักมากจนไม่มีใครฟังใคร ประชาชนจะถูกยุยงปลุกปั่นให้ออกมาทะเลาะกันรุนแรงเพื่อผลประโยชน์แต่ละฝ่าย โดยไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครฟังใคร บ้านเมืองจะวุ่นวายมาก เพราะขาดผู้ที่มีบารมีพอที่ทุกคนเต็มใจรับฟัง
และที่สำคัญประชาชนจะรู้สึกเคว้งคว้าง ขาดศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจ ความคิดในการเสียสละทำเพื่อบ้านเมืองจะลดลงมาก ประเทศไทยอาจเกิดการจะแตกแยก ไทยเหนือ ไทยใต้ ต่างชาติจะเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย แผ่นดินไทยจะร้อนระอุไม่ได้แตกต่างจากหลาย ๆ ประเทศที่สิ้นชาติ หรือแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ประเทศ แน่นอนว่าชาติมหาอำนาจย่อมหวังเข้ามาแทรกแซงไทย หลาย ๆ ประเทศเมื่อสิ้นสถาบันแล้วมหาอำนาจก็เข้ามาครอบงำ แทรกแซงทำให้ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของชาติมหาอำนาจตลอดเวลา ซึ่งพวกเราคงไม่มีวันยอม นายอานนท์ กล่าว